วันที่ 16 ก.ย. 2561 ที่ลำน้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก วันนี้มีการแข่งขันเรือยาวประเพณี ชิงถ้วยพระราชทานประจำปี 2561 มีเรือที่เข้ารอบจากเมือวานมาแข่งขันกัน ทั้งเรือยาวใหญ่ เรือยาวกลาง เรือยาวเล็ก เรือยาวจิ๋ว และเรือยาวท้องถิ่นหรือเรือยกขโยง ที่มีที่สนามพิษณุโลกแห่งเดียวที่มีการปล่อยเรือ 3 ฝีพายมาพร้อม ๆ กันครั้งละ 4 ลำ ใครถึงเส้นชัยก่อนเป็นฝ่ายชนะ ก็สามารถสร้างสีสันให้กับคอเรือยาวที่มารอชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเรือปกติได้ลงแข่งขันกันจำนวน 60 เที่ยว ผลปรากฏว่า เรือยาวใหญ่คู่ชิงชนะเลิศ ฝีพายตั้งแต่ 41 – 55 ฝีพาย พบกันอีกครั้งระหว่าง เรือพญาชาละวัน จาก อบต.ไผ่ขวางจังหวัดพิจิตร พบกับเรือเทพนรสิงห์ 88 จาก อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี โดยแข่งแบบกลับสายน้ำ 2 รอบ ปรากฏว่าเรือพญาชาละวัน มีเทือกเรือที่แข็งแกร่งกว่าจึงเอาชนะเรือเทพนรสิงห์ 88 เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ โดยมี นาย ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีปิด
โดยผลการแข่งขันในประเภทอื่น ๆ เป็นดังนี้
เรือยาวใหญ่ประเภทพื้นบ้าน ครองถ้วยประทานของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา คือ เรือศรีสรเพชร วัดท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
เรือยาวกลางประเภท ก. ครองถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คือ เรือแม่เศรษฐีเรือทอง จากวัดพุน้อย จ.ลพบุรี
เรือยาวเล็ก ประเภท ก. ครองถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี คือ เรือเทพบุตรขวัญแก้วเขยร้อยเอ็ด จ.พิษณุโลก
เรือยาวจิ๋ว ครองถ้วยประทานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ คือ เรือพลอยสุวรรณรัตน์นที วัดท่าตะเคียน จ.พิษณุโลก
เรือ 7 ฝีพายสิงห์สองแคว ครองถ้วยประทานของ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ คือ เรือ อบต.ไผ่ล้อม1 น้ำตาลลิน อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก
เรือยาวเล็กภายใน จ.พิษณุโลก ครองโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี คือ เรือพรหลวงพ่อดำ วัดบางพะยอม ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก