วันที 27 ส.ค.61 นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 ครั้งที่ 45 ปีบัญชีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2561 ของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด โดยมีนายจรัญ พงษ์เผ่า ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 2 นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด และผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ กว่า 600 คน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด จังหวัดพิษณุโลก
นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2517 ประเภทสหกรณ์การเกษตร การดำเนินงานของสหกรณ์มีความเจริญก้าวหน้าตามลำดับ ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสมาชิก รวม 3,490 คน มีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจรวบรวมผลผลิต ธุรกิจแปรรูปผลิตผลการเกษตรและการผลิตสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานของสหกรณ์และความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก
นายเกรียงศักดิ์ รสดี กล่าวว่า ที่ผ่านมา สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาอาชีพเกษตรของเกษตรกรสมาชิกตามนโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกให้ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาบูรณาการทำงานร่วมกัน จนประสบผลสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของเกษตรกรในพื้นที่ ส่งผลให้ในปีนี้ สหกรณ์ฯ มีทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น จำนวน 822,976,957.88 บาท มีกำไรสุทธิประจำปี จำนวน 20,565,524.51 บาท ซึ่งที่ประชุมใหญ่ฯ ได้จัดสรรเป็นเงินปันผลตามหุ้น ร้อยละ 5 เงินเฉลี่ยคืนธุรกิจสินเชื่อ ร้อยละ 4 จึงนับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ขอบคุณสมาชิกสหกรณ์ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นด้านการบริหารงานของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของเกษตรกรสมาชิก เพื่อทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกข้าว กข 43 ในเขตพื้นที่บางระกำโมเดล จำนวน 5,014 ไร่ โดยสหกรณ์ฯ เปิดตลาดรับซื้อผลผลิตข้าวในราคาตันละ 10,000 บาท ระดับความชื้น 15 % สำหรับข้าวในพื้นที่กำลังอยู่ในช่วงทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งเกษตรกรที่นำข้าวมาขายมีความพึงพอใจกับราคาที่ได้รับ เพราะราคาสูงกว่าท้องตลาด
นายสมศักดิ์ แสนศิริ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้วางแผนการส่งเสริมอาชีพให้แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนาตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2,800 ไร่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน 2561 เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สลับกับการทำนา เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้ที่มั่นคงตามนโยบายของรัฐ อีกด้วย
วรนุช มีชัย/ข่าว
ภาพ/ทีมงานประชาสัมพันธ์
/สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก