จัดงาน“วันสถาปนากองทัพภาคที่ ๓ ครบรอบ ๑๑๖ ปี”

18 สิงหาคม 2561 พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ ๓ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา เนื่องใน “วันสถาปนา กองทัพภาคที่ ๓ ครบรอบ ๑๑๖ ปี” ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในวันเสาร์ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๗.๓๐ น.จากนั้น ในเวลา ๑๐.๐๐ น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนผู้กล้า อดีตผู้บังคับบัญชา และกำลังพลที่ล่วงลับไปแล้ว ของกองทัพภาคที่ ๓ เนื่องใน “วันสถาปนา กองทัพภาคที่ ๓ ครบรอบ ๑๑๖ ปี” โดยมี พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ ๓ ให้การต้อนรับ ณ ห้องบันเทิงทัพ ๑๐๑ สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ประวัติกองทัพภาคที่ ๓ กองทัพภาคที่ ๓ ก่อกำเนิด เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๕ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จังหวัดแพร่ ได้รวมตัวเป็นกบฏก่อการจลาจล ใช้อาวุธปืนบุกเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้ ๖ สิงหาคม ๒๔๔๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ พลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังเข้าปราบปราม ระหว่างทางเมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัย และอุตรดิตถ์ ก็ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๕ ในการเดินทางกลับ เมื่อผ่านเมืองพิษณุโลก ได้หยุดตั้งค่ายพักแรม และได้พิจารณาเห็นว่าภาคเหนือควรมีทหารประจำการไว้บ้าง จึงจัดตั้ง กองทหารขึ้น ๑ กอง ประจำอยู่ที่พิษณุโลก และเป็นที่มาของกองทัพภาคที่ ๓ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ติดกับแม่น้ำน่าน มาจนถึงปัจจุบัน จึงได้ถือเอาวันที่ ๒๐ สิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปราบกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ ๓ จวบจนถึงปัจจุบัน
กองทัพภาคที่ ๓ เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ ๑๑๖ ปี แห่งการสถาปนาหน่วย กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ ๓ ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง โดยมีภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก คือ การปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, การป้องกันประเทศ, การรักษาความมั่นคงความสงบเรียบร้อยภายใน, การกำกับดูแลแนวชายแดน เพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่ง รวมทั้งกระทบถึงความสัมพันธ์ที่ดีของมิตรประเทศ พร้อมการสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับต่างประเทศ, การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าและภูเขา ถือว่าเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ กองทัพภาคที่ ๓ จึงได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการปฏิบัติภารกิจต่อภัยคุกคามที่มิใช่สงคราม เพื่อความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน, การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกประการ โดยการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยขึ้นในหน่วยทหารที่กองทัพภาคที่ ๓ รับผิดชอบทั้ง ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่างๆ
ปัจจุบัน กองทัพภาคที่ ๓ ได้มี พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ ๓ และเป็นแม่ทัพภาคที่ ๓ คนที่ ๓๗ ซึ่งท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีลักษณะของผู้นำ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ และมีหลักการปกครอง ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ยุติธรรม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และเน้นให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กำลังพล มีความเป็นอยู่ที่ดี มีขวัญกำลังใจ และมีรางวัลตอบแทนผลงานของผู้ร่วมงาน ทั้งนี้ ที่สำคัญต้องมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผลงานออกมามีประสิทธิภาพ ทันเวลา “Do it now” “ทำทันที ไม่มีเดี๋ยว” บรรลุตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชาทุกระดับ นอกจากนี้ ยังได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาใช้ภายใน หน่วยทหาร โดยได้ดำเนินการจัดทำ “โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ (เกษตรอินทรีย์) กองทัพภาคที่ ๓” ขึ้น เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ให้กับกำลังพลและครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาศึกษา และนำความรู้ไปดำเนินการในพื้นที่ของตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อไป ตลอดจนยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และมั่นคง
กองทัพภาคที่ ๓ จึงได้จัดงาน “วันสถาปนา กองทัพภาคที่ ๓ ครบรอบ ๑๑๖ ปี” ขึ้น เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้ง กองบัญชาการกองทัพภาคที่ ๓ อย่างเป็นทางการ เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๕ และเป็นการสดุดีวีรชน ทหารกล้า ที่ได้สละชีวิตและเลือดเนื้อ ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของผืนแผ่นดินไทย รวมทั้งปราบปราม ยาเสพติดในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ เพื่อปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลาน ตลอดจนร่วมกันสำนึกในบุญคุณ และจดจำคุณงามความดีของเหล่าวีรชนผู้กล้า 

แสดงความคิดเห็น