ชาวบ้านหล่ายขานางร้องเงินกองทุนเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุตายแล้วให้เงินไม่ครบ

วันที่ 17 ส.ค.2561  ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก นายจรัสรวี  อินทร์เกตุ อายุ 45 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.พันเสา  อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่อ้างว่าถูกโกงเงินค่าฌาปนกิจตั้งแต่เดือน เมษายน 2561 เพิ่งได้รับเงินเมื่อวานนี้ 16 ส.ค.61 และไม่ครบตามจำนวน โดยขอให้เข้าตรวจสอบ กองทุนเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุหมู่บ้านหล่ายขานาง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก  ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนดังกล่าวได้เดินทางมาที่ ที่ทำการกองทุนสงเคราะห์ผู้สูงอายุหมู่บ้านหล่ายขานาง หมู่ 8 บ้านหล่ายขานาง  กว่า 40 คน เพื่อรับฟังคำชี้แจงจากคณะกรรมการกองทุนฯ  

โดยนายจรัสรวี   อินทร์เกตุ กล่าวว่า ตนเองเป็นสมาชิกกองทุนดังกล่าว มา 2 ปี 4 เดือน ซึ่งเดิมจะต้องได้รับเงินค่าฌาปนกิจกว่า 280,000 บาท แต่ได้ไม่ครบจำนวน กองทุนจ่ายมาเพียง 120,000 บาท  จึงทวงถามความโปร่งใสของการดำเนินการกองทุน และทวงเงินที่เหลือ พร้อมกับอ้างว่ามีสมาชิกรายอื่น อีก ประมาณ 3-4 รายที่เกิดกรณีเดียวกันกับตนเองยังไม่ได้รับเงิน พร้อมกับเตรียมร้องนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสของกองทุนดังกล่าว

ด้าน นางนัฐพร  ขำวงฆ้อง อายุ 44 ปี ชาว บ้านหล่ายขานาง อ.บางระกำ ซึ่งเป็น  1 ใน 6 คณะกรรมการกองทุนเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุหมู่บ้านหล่ายขานาง อ.บางระกำ ได้ออกมาชี้แจงว่า  เดิมกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นโดยผู้สูงอายุในหมู่บ้านหล่ายขานาง มีสมาชิก 557 คน ต้องจ่ายค่าทำศพ ๆ ละ 50 บาท  ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการชุดปัจจุบันเริ่มมารับช่วงดำเนินการต่อเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558  โดยเปิดรับสมาชิกทั่วไปอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป โดยมีระเบียบว่า หากสมาชิกขาดส่ง เกิน 2 รอบ จะถูกตัดสิทธิ์ แต่ที่ผ่านมาสมาชิกบางคนร้องขอให้รอจะนำเงินส่ง จึงกลายเป็นเก็บเงินจ่ายสมาชิก ฌาปนกิจล่าช้าเรื่อยมา และจากกรณีที่ถูกร้องเรียน นางนัฐพร กล่าวว่า เดิมมีสมาชิกมากกว่า 5,000 ราย ปัจจุบันลดลงเหลือ  2,575 ราย ยอด ฌาปนกิจจึงลดลง ประกอบกับ มีสมาชิกหลายรายไม่ยอมส่งเงิน บางรายส่งไม่ไหว เนื่องจากบางเดือนมีค่าทำศพ กว่า 50 ราย รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายประมาณ   2,500 บาท  จึงลาออกจากการเป็นสมาชิก ทำให้เก็บเงินไม่ได้ตามยอดจำนวนสมาชิก  และไม่สามารถนำเงินจ่ายให้สมาชิกเป็นค่าฌาปณกิจได้ตามจำนวนเดิม  จึงจ่ายเท่าที่สมาชิกส่งเงินมา  

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบอกว่า ต้องการทวงถามความโปร่งใสของการดำเนินการของกองทุน ว่ามีสมาชิกมากน้อยเพียงใด เป็นใครบ้าง สมาชิกเข้าออกอย่างไร เพื่อดูว่าเงินกองทุนดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และมีเงินกองทุนบริหารจัดการเท่าไหร่ และโดยมาหลายรายจะขอเงินที่เหลือที่ตนควรได้ตามข้อตกลงที่กำหนดไว้  ซึ่งเบื้องต้นนายจรัสรวี  อินทร์เกตุ อายุ 45 ปี ได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่  17 กรกฎาคม 2561 และจะเดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.พิษณุโลก ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอความเป็นธรรม และเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือช่าวบ้านต่อไป

แสดงความคิดเห็น