หนุ่มพิษณุโลกแจ้งความเอาผิดความเพจดัง นำเรื่องภรรยาโดดน้ำน่านหนีหนี้มาโพสต์

หลังจากเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return”ได้โพสต์เรื่องราวของนายรังสิกาล ทองนวกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 919/23 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่ภรรยาคือ น.ส.นภัชชา เงินไทย หรือน้องจันทร์เจ้า อายุ 34 ปี ที่คาดว่าจโดดน้ำแม่น้ำน่าน จนเสียชีวิตตั้งแต่เช้าวันที่  16 ก.ค. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบศพแต่อย่างใด ซึ่งในวันเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกันขนหาศพ ก็ยังไม่พบร่างของ น.ส.นภัชชา เลย ทำให้กระแสวิพากวิจารณ์กล่าวหาว่า น.ส.นภัชชา ทำเป็นโดดน้ำเสียชีวิต หรือ หนีหนี้หรือไม่ 

ในวันนี้ 3 สิงหาคม 2561 นายรังสิกาล พร้อมบิดา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณสะพานเอกาทศรถ ฝั่งตะวันตก อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมกับเล่าว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 15 ก.ค.2561  ตนเองได้กลับมาที่ร้านขายเสื้อที่อยู่ห่างจากสะพานประมาณ 200 เมตร ก็เห็นจดหมายลาตาย ก็ตกใจจึงได้โทรหาญาติของภรรยา แล้วไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก แต่ตอนแรก ก็ยังไม่รับแจ้งความเนื่องจาก ยังไม่ครบ 24 ชม. จากนั้นได้ช่วยกันตามหาแต่ก็ไม่พบ เมื่อครบ 24 ชม. จึงได้ไปแจ้งความ และสอบถามผู้ที่ตกปลาทั้งอยู่รอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุ ต่างก็เห็นพูดเหมือนกันว่า เห็นร่างของภรรยาตนตกลงไปในแม่น้ำน่าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกู้ภัยมาช่วยกันงมหา ก็ไม่เจอแต่อย่างใด

ต่อมาก็เห็นเรื่องเงียบไป ตนเองก็จ้างชาวบ้านที่อยู่แพ นำเรือมาดูก็ไม่พบอีก จากนั้นบิดาตนเองก็ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง จากนั้นวันที่ 18 ก.ค. เจ้าหน้าทีกู้ภัยต่างก็มาช่วยกันค้นหาอีกครั้ง ก็ไม่เจอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า หากพบร่างของภรรยาตนที่จมน้ำจริง ก็ต้องขึ้นมาติดแพหรือพงหญ้า ก็อาจมีชาวบ้านพบเห็น ก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่านอกจากรองเท้า มีหลักฐานอื่นอีกหรือไม่ที่มั่นใจภรรยาตนเองตกน้ำ นายรังสิกาล กล่าวว่าพยานมีถึง 4 คนที่เห็นเหตุการณ์ ทำให้ตนเองมั่นใจว่าภรรยาตกน้ำแม่น้ำน่านอย่างแน่นอน และสาเหตุที่คาดว่าภรรยาตนเองคิดสั้น นั้น ตนเองก็คาดว่าปัญหาจากหนี้สินที่ตนเองไม่ค่อยทราบว่า มีที่ไหนบ้าง และอย่างอื่นอีกหลายอย่าง เพราะช่วงหลังเขาบอกว่าเบื่อไม่อยากทำงาน ขณะนี้ข้อเท็จจริงเรื่องปัญหาหนี้สินนั้น มีการลงโพสต์กันว่าภรรยาตนเองติดหนี้สิน 4-5 ล้านนั้น ก็ไม่จริงแต่อย่างใด ซึ่งเงินหลักแสนหลักล้านนั้น ใครจะให้ยืมโดยไม่มีหลักค้ำประกันแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะด้วยใจก็ตาม ก็ต้องมีหลักฐานในการโอนเงินบ้าง

ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นตนเองก็ไปสอบถามพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ก็ได้แต่เพียงว่าให้รออย่างใด หากไม่พบร่างของผู้เสียชีวิตก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ก็ฝากพี่ๆสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงว่าตนเองนั้นก็อยากจะเจอภรรยาตนเอง หากเป็นศพ ก็จะทราบว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ หรือ หากยังมีชีวิตอยู่ ก็อยากให้ภรรยาตนที่ทราบข่าวติดต่อกลับมา เพื่อจะได้ทราบความจริงกระจ่าง และเป็นที่สบายใจทั้งตนเองและครอบครัวของภรรยา

ขณะที่ตนเองได้ไปแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return” ที่สภ.เมืองพิษณุโลกไว้แล้ว ที่ นำภาพตนและภรรยาไปลงเผยแพร่แล้วมีผู้เข้ามาคอมเม้นท์รวมทั้งแจ้งข้อมูลข่าวสารไปต่าง ๆ นานา ว่าภรรยาตนสร้างเรื่องเพื่อหนีหนี้สินที่กู้ยืมคนอื่นมา และยังกล่าวหาว่าตนมีส่วนรู้เห็นด้วย ทำให้ตนเกิดความเสียหายอย่างยิ่ง

สำหรับน้องจันทร์เจ้า ภรรยาของตนนั้นเป็นพนักงานขายตั๋วเครื่องบินบริษัทไลอ้อนแอร์ ประจำท่าอากาศยานพิษณุโลก และเช่าร้านขายเสื้อยืดกับตนอยู่บริเวณถนนพระร่วง ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหารายได้เสริม การที่น้องจันทร์เจ้ามีหนี้สินหรือไม่นั้น ตนจะทราบในส่วนที่ตนรับรู้ ส่วนหนี้สินส่วนตัวนั้นตนเองไม่เคยรู้เลย แต่จะเป็นหนี้ 4 – 5 ล้านก็ต้องมีคนค้ำประกันหรือนำทรัพย์สินไปค้ำไว้ คงไม่มีใครให้ยืมกันง่าย ๆ แน่

ส่วนที่มีผู้อ้างว่ายืมเงินจำนวน 2 แสนบาทไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ก่อนหายตัวไปนั้น ถึงวันนี้ตนก็ไม่เห็นมีใครติดต่อมาหรือแสดงหลักฐานการกู้ยืมให้ทราบ ตนอยากขอความเป็นธรรมให้ทุกคนทุกฝ่ายฟังความทั้งสองข้างด้วย  ไม่ใช่เขียนกันแบบไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะสร้างความเสียหายให้กับตนอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ก็ยังร้อนใจอยู่ที่ยังไม่พบภรรยา ตอนนี้ตนตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ถ้าภรรยาตนยังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ออกมา จะได้ชี้แจงว่าไปไหน ตนทำทุกทาง ถามเพื่อนสนิททุกคน ส่วนคนที่แจ้งไปทางเพจดังว่าภรรยาตนสร้างเรื่องหนีหนี้ ก็ขอให้แจ้งมาเลยว่าพบเห็นที่ใด อย่ามโนกันไปเอง แจ้งมาเลยว่าหนีไปอยู่ที่ไหน ไปทำอะไร ช่วยกันตามเลย ถ้ารู้ข่าวได้ลึกมากก็ช่วยบอกกันมา ไม่ใช่มาใส่ไฟตนว่าสร้างข่าวภรรยาตายเพื่อหนีหนี้

ผู้สื่อข่าวสอบถามความคดีหน้าของคดีไปทาง พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ก็ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่นิ่งนอนใจเรื่องนี้ ได้สอบพยานแวดล้อมแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากยังไม่พบศพ หรือร่างของน.ส.นภัชชา เงินไทย หรือน้องจันทร์เจ้า แต่อย่างใด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรับแจ้งไว้เพียงแค่บุคคลหายไปก่อนเท่านั้น

/////////////

 

แสดงความคิดเห็น