วันที่ 1 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยนเรศวร นายภัคพงษ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการเปิดงานมหกรรมความยักษ์ เมืองสองแคว ครั้งที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาควายไทยจังหวัดพิษณุโลก เป็นการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาเห็นความสำคัญกับการผลิตควายคุณภาพทั้งการจัดการเลี้ยงดู การคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์กระบือ และร่วมกันอนุรักษ์ควายไทยมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มของกระบือ หรือ ควายไทย ภายในงารนมีการจัดนิทรรศการควายไทย, พิธีสู่ขวัญควาย ,การโชว์ความเผือกและความแคระแสนรู้ ,การประกวดความงามจากทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมด 12 รุ่น
นายธรรมนูญ ทองสุข ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า กระบือ ถือว่า เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันและด้วยความเจริญด้านเทคโนโลยีทำให้ความสำคัญในการใช้แรงงานกระบือกระบี่เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันและด้วยความเจริญด้านเทคโนโลยีทำให้ความสำคัญในการใช้แรงงานกระบือในไร่นาลดลง เนื่องจากนำไปใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรอย่างอื่นที่ให้ผลผลิตเร็วกว่าทำให้จำนวนกระบือภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 10 ปีที่แล้วมีกระบือ 1200000 ตัว และจนเหลือกระบือประมาณ 800,000 ตัว จากปัญหาดังกล่าวหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือกับเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงกระบือให้ความสำคัญกับการผลิตกระบือคุณภาพการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ที่เหมาะสมการอนุรักษ์พันธุกรรมที่ดีและการเพิ่มจำนวนกระบือต่อไป
นายสมบัติ ทำละเอียด นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย (สคท.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรรุ่นใหม่ หันมาเลี้ยงควายไทยที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัมกันมาก ขึ้น เนื่องจากมีความสวยงามมากกว่าควายต่างประเทศ และที่สำคัญสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่เลี้ยง ที่แต่ละตัวมีราคาหลายแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ควายไทยถือว่ามีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างมาก จนสามารถพัฒนาเป็นควายที่มีน้ำหนักเป็น 1,000 กิโลกรม โดยเฉพาะฟาร์มกระบือของตนเอง มีควายยักษ์ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัม กว่า 80 ตัวแล้ว และล่าสุดได้ซื้อพ่อพันธุ์ที่ชื่อ “เก้าเจริญ” ที่มีน้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม ในราคากว่า 1.5 ล้านบาท มาปรับปรุงสายพันธุ์ในฟาร์มตนเองอีกด้วย
/////////////