วันที่ 20 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่า หลังพายุโซนร้อนเซินติญเคลื่อนตัวเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบในหลายจังหวัด เนื่องจากเกิดฝนตกตลอดทั้งวันและคืนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก มีกระแสน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่นาไร่และสวนของเกษตรกร ตลอดทั้งบ้านเรือนจำนวนหนึ่ง
ในส่วนพื้นที่ ม.10 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่นาข้าว น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วม และถนนคอนกรีต ที่น้ำท่วมเป็นระทางยาว กระแสน้ำยังไหลเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฝนตกมาตลอดเวลาไม่ท่าจะหยุด ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดทั้งสองสาสามวันที่ผ่านมา แต่ยังไม่กระทบกับถนนสายหลักที่มุ่งเข้าสู่ตัวอำเภอนครไทย
ทั้งนี้พื้นที่ อ.นครไทย เป็นพื้นที่ราบสูง จะได้รับน้ำมาจากเทือกเขาภูหินร่องกล้า และเทือกเขาภูเขาช้างล้วง และเทือเขาจาก ต.นครชุม กระแสน้ำจะไหลสู่พื้นที่ราบลงสู่แม่น้ำแควน้อย ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่ปัจจุบันยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก ข้อมูล ณ 20 ก.ค.61 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณ น้ำเก็บกัก 153.44 ล้าน ลบ.ม (16.34%) จากปริมาตรอ่างเก็บน้ำ 939 ล้านลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ 110.44 ล้าน ลบ.ม.(12.33%) มีน้ำไหลเข้า 5.97 ล้าน ลบ.ม ระบายน้ำ ออกวันละ 1.29 ล้าน ลบ.ม. น.ส.อิศราภรณ์ สุจาโน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก สาขานครไทย กล่าวว่า หลังจากฝนตกทั้งเมื่อค่ำคืน และที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำที่หลากจากเทือกเขาร่องกล้า ลงสู่ที่ราบลุ่ม ยังมีการท่วมขังในพื้นที่ 2 ตำบลคือ ต.ห้วยเฮี้ย จำนวน 4 หมู่บ้าน และ หนองกระท้าว จำนวน 1 หมู่บ้าน อ.นครไทย ล่าสุดน้ำจากเทือกเขาภูเขาช้างล้วง และเทือกเขาจาก ต.นครชุม กระแสน้ำจะไหลสู่พื้นที่ราบลงแม่น้ำแควน้อย ท่วมพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย อีก เบื้องทางเจ้าหน้าที่ ปภ.จะได้เร่งทำการสำรวจความเสียหายของเกษตรกร อีกครั้ง เบื้องต้นพบว่ายังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 หมู่บ้าน ใน 3 ตำบล พร้อมทั้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ให้เพิ่มความระมัดระวัง พร้อมให้เฝ้ารายงานสภาพอากาศจากอุตุนิยมวิทยา ต่อไป