เก็บดีเอ็นเอเครือญาติช่วยบุคคลไร้บัตรประชาชนในจ.พิษณุโลก 54 ราย

วันที่ 26 มิถุนายน 2551 เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประสานแผนอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นางกัญญ์ฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ อดีตสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้ประสานงานตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) พร้อมด้วย นายแพทย์ปิยนันต์ มธุรมน นายแพทย์ชำนาญการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ปฏิบัติหน้าที่จัดเก็บข้อมูล

นางกัญญ์ฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์  อดีตสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้ประสานงานตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) เปิดเผยว่า ปกครองจังหวัดพิษณุโลกและคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ดำเนินการสำรวจบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ และพบว่ามีบุคคลที่ยังมีเครือญาติ ที่สามารถเป็นคู่ตรวจ DNA ได้ในขณะนี้จำนวน 54 ราย ได้แก่อำเภอวังทอง 35 ราย อำเภอนครไทย 9 ราย อำเภอเนินมะปราง 5 ราย อำเภอบางระกำ 1 ราย อำเภอพรหมพิราม 2 ราย อำเภอเมืองพิษณุโลก 2 ราย รวมจำนวน 54 ราย รวมทั้งสิ้นพร้อมคู่ตรวจ DNA เป็นจำนวน 108 ราย ที่ต้องตรวจ DNA สิ่งที่ผ่านมาจังหวัดพิษณุโลกจะต้องเดินทางไปตรวจที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบคนถ้าเป็นกรณีบิดามารดากับบุตรจะมีค่าใช้จ่ายจำนวน 4,000 บาท ต่อคน กรณีญาติพี่น้องหรือญาติลำดับใกล้ชิดค่าบริการ 8,450 บาทต่อคน ดังนั้นการตรวจเป็นคู่จะมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 8,000-16,000 บาทเป็นต้น ซึ่งผู้มีฐานะยากจนไม่สามารถจะมีเงินจ่ายค่าตรวจได้ต้องพึ่งหน่วยงานของรัฐเช่นกรมการปกครองจะมีโควต้าตรวจฟรีซึ่งมีจำนวนจำกัด หรือที่สำนักงานอยู่ต่างจังหวัดจะมีกองทุนช่วยเหลือในการตรวจแต่ในครั้งนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีหนังสือขออนุเคราะห์จากสถาบันนิติศาสตร์วิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้มาดำเนินการตรวจโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปไกลถึงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำผลตรวจ DNA ไปเป็นหลักฐานประกอบการให้สถานะทางทะเบียนของอำเภอต่อไป ซึ่งบุคคลที่ได้รับการแจ้งผลตรวจแล้วจะมีสิทธิ์ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านและได้รับบัตรประชาชน มีสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายเช่น สิทธิในการรักษาพยาบาล สิทธิในการทำงาน สิทธิในการเดินทาง รวมถึงสิทธิในการรับเบี้ยผู้สูงอายุ เป็นต้น

 

แสดงความคิดเห็น