ชาวบ้านรวมตัวขับไล่เจ้าคณะตำบลห้วยเฮี้ยให้ออกจากวัดป่าคาย อ.นครไทย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.2561  นายสกุล  คงปันนา อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนชาวบ้านป่าคาย หมู่ 2 ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กว่า 100 คนได้เดินทางไปที่ที่ว่าการอำเภอนครไทย  เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนกับเจ้าคณะอำเภอนครไทย ผ่าน นายนิสิต  สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย กรณีขับไล่ พระครูอนุกูลบุญสาร (ประเสริฐ  ปุญญผโล) เจ้าคณะตำบลห้วยเฮี้ย เขต 1 เจ้าอาวาสวัดป่าคาย ให้พ้นไปจากวัดป่าคายภายในวันนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อการครองสมณพระภิกษุ ไปทำกิจของสงฆ์นอกวัด ไปกับสีกาสองต่อสองเป็นประจำ และยังพูดอีกว่าส่งงวดรถให้สีกาบ้างเป็นบางเดือน

โดยรถเก๋งของสีกาจะจอดอยู่บริเวณที่จอดรถของวัดเป็นประจำคือรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กย 630 พิษณุโลก ขณะที่ศาลาการเปรียญหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ตัวพระยังพูดอีกว่าให้หยุดสร้างศาลาไปเลยบอกเจ้าภาพก็ได้ แต่ชาวบ้านลงความเห็นว่าศาลาสร้างแล้วต้องสร้างต่อไป เพราะเงินผ้าป่าก็มีแล้ว แต่ชาวบ้านเก็บไว้เองไม่ได้นำไปเข้าบัญชีของวัดที่ธนาคาร เพราะชาวบ้านไม่ไว้วางใจพระรูปนี้ แต่เงินผ้าป่ายังอยู่ครบ อยู่กับชาวบ้านผู้ดูแลเงินอย่างปลอดภัย จำนวนเงินผ้าป่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2561 ยอดเงินทำบุญ 110,373 บาท หักค่าใช้จ่ายเป็นค่ากับข้าวจำนวน 2 วันเงินคงเหลือ 82,819 บาท และนำเงินไปจ่ายเป็นค่าเมทัลชิส 34,800 บาท เงินคงเหลือรวมทั้งสิ้น 48,017 บาท จึงพร้อมที่จะดำเนินการสร้างศาลาต่อ ชาวบ้านทนพฤติกรรมของพระรูปนี้จนถึงที่สุดแล้ว และทนไม่ไหวจึงมารวมตัวกันเพื่อจะขับไล่ให้ออกจากวัดป่าคายทันที แต่ไม่ได้ให้สึกจากการเป็นพระแต่อย่างใด

ต่อมา พระมหาเก่ง ซึ่งเป็นเลขานุการของ พระครูพิบูลธรรมวงศ์ เจ้าคณะอำเภอนครไทยเจ้าอาวาสวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว ได้มาพบกับนายอำเภอนครไทย และแกนนำชาวบ้านเพื่อขอรับหนังสือร้องเรียนนำไปมอบให้กับเจ้าคณะอำเภอนครไทยที่เดินทางไปประชุมที่วิทยาลัยสงฆ์พระพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก ขณะเดียวกัน นายนิสิต  สวัสดิเทพ นายอำเภอนครไทย ได้ขอให้ชาวบ้านรอที่ห้องประชุมของที่ว่าการอำเภอก่อน เนื่องจากได้นัดหมายพระครูอนุกูลบุญสาร มาพบเพื่อเจรจากับแกนนำชาวบ้านแล้ว เพราะก่อนหน้านี้พระครูอนุกูลบุญสารเคยร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมว่า มีคณะกรรมการวัดเอาเงินผ้าป่าของวัดไปโดยมิชอบด้วย จึงอยากให้คุยกันให้เข้าใจก่อนว่า เงินดังกล่าวยังอยู่ครบกับชาวบ้านผู้ดูแลเงินวัด และจะได้ให้ท่านรับทราบว่าชาวบ้านไม่ต้องการให้ท่านอยู่ที่วัดป่าคายต่อไปอีกแล้ว

โดยมีการประชุมร่วมกันระหว่าง พระมหาเก่ง เลขานุการเจ้าคณะอำเภอนครไทย นายอำเภอนครไทย  นายสกุล คงปัญนา พร้อมตัวแทนชาวบ้านอีก 1 คน และพระครูอนุกูลบุญสาร เจ้าอาวาสวัดป่าคายที่ห้องนายอำเภอ ได้ข้อสรุปว่า นิมนต์พระครูอนุกูลบุญสาร เจ้าอาวาสวัดป่าคายไปจำวัดที่วัดบ้านพร้าวก่อน จากชาวบ้านพึงพอใจแยกย้ายกลับ

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ พระครูอนุกูลบุญสาร  เจ้าคณะตำบลห้วยเฮี้ย เขต 1 เจ้าอาวาสวัดป่าคาย ม.2 ต.ห้วยเฮี้ย  อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า  ขณะนี้ได้สั่งระงับการก่อสร้างศาลาการเปรียญ  หลังจากตรวจสอบพบว่า  เพราะมีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งผู้ที่เก็บเงินวัดไปดำเนินการเอง และยังไม่สามารถชี้แจงเงินทั้งหมดได้

พระครูอนุกูลบุญสาร เจ้าคณะตำบลห้วยเฮี้ย เขต 1 เจ้าอาวาสวัดป่าคาย

เจ้าอาวาส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ที่วัดได้จัดให้มีการทอดกฐิน ได้เงินทั้งหมด 631,200 บาท ทางเจ้าภาพได้ให้เปิดบัญชีขึ้นใหม่กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีชื่อลูกบ้าน จำนวน 2 คน เป็นผู้นำเงินทั้งหมดไปเข้าบัญชีไว้ และมีสิทธิในการเบิกถอน ซึ่งไม่ได้นำบัญชีกลับมาให้ทางวัดเก็บแต่อย่างใด  ต่อมามีการสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ โดยทางผู้ที่เก็บเงินวัดไปเป็นผู้ดำเนินการเรื่องเงินทั้งหมด  ทางวัดจึงทำหนังสือถามเงินดังกล่าว  เพื่อจะนำมาเข้าบัญชีวัดให้ถูกต้อง แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ หลังจากนั้นได้ตรวจสอบัญชีเงินฝาก ปรากฏว่าเหลือเงินติดบัญชีเพียง 892 บาทเท่านั้น โดยทางผู้เก็บเงินวัดเอาไว้อ้างว่าเงินทั้งหมดนำมาสร้างศาลการเปรียญหลังใหม่ จึงได้ให้ชี้แจ้งและนำหลักฐานมาแสดง  แต่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ประมาณ 300,000 บาท  ส่วนที่หายไปไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ และไม่มีการชีแจงแต่อย่างใด

พระครูอนุกูลบุญสาร  กล่าวว่า ยังมีเงินอีกประมาณ  90,000 บาท ที่มีชาวบ้านทำบุญกับทางวัด โดยเปิดบัญชี 2 ชื่อ ซึ่งมีชื่ออาตมากับชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เปิดบัญชีครั้งแรก  โดยนำไปฝากธนาคาร ธกส.เอาไว้ แต่ปรากฏว่าคนที่มีชื่อฝากร่วมกับอาตมา  ได้ถอนเงินทั้งหมด โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบเหลือติดบัญชีเพียง 500 บาท และไม่รู้นำเงินไปทำอะไร  ล่าสุดยังมีเงินผ้าป่าอีกประมาณ 110,000 บาท  ชาวบ้านคนเดียวกันได้มายึดเงินผ้าป่าไปต่อหน้าต่อหน้าต่อตา  ทั้งที่งานผ้าป่ายังไม่เสร็จสิ้น  ชาวบ้านและเจ้าภาพที่นำมาถวายต่างเห็นเหตุการณ์  โดยผู้ชายดังกล่าวอ้างจะนำไปเก็บไว้เอง  ต่อมาได้สอบถามได้รับคำตอบว่านำไปให้เจ๊คนหนึ่ง  อาตมาก็ยังสงสัยว่าเอาไปให้ทำไม ทั้งที่เป็นเงินของวัดคนมาทำบุญ  ตอนนี้อาตมาได้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านแยง เอาไว้แล้ว

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น