เวลา 9.30 น.วันนี้ 1 มิถุนายน 2561 ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ รองผู้บัญชาการมนฑลทหารบกที่ 39 (มทบ.39) และ พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รองเสธนาธิการ มทบ.39 ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมหารือกับ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก..ภ.จว.พิษณุโลก และ พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก หลังจากกรณีทหารและสารวัตรทหาร ซึ่งนำโดย พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร รองเสนาธิการ มทบ.39 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก นำบุกจับ แก๊งเงินกู้นอกระบบ ภายในปั๊มเซลล์ บริเวณสี่แยกไทยแอร์โร่ ต.หัวรอ จ.พิษณุโลก หลังสืบทราบว่า มีขบวนการแก๊งปล่อยเงินกู้จะมากดเงินของลูกค้า ที่ชำระดอกผ่านทางตู้เอทีเอ็ม เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ พบรถยนต์ต้องสงสัย ชายต้องสงสัย กระบะแค็ป ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บน 9355 พิจิตร ขับมาจอดหน้าตู้เอทีเอ็ม จากนั้นมีชายหนุ่ม ซึ่งเป็นคนขับลงมากดเงินจากตู้เอทีเอ็ม พร้อมกับมีการโอนเงินไปให้กับชายคนหนึ่งอีกทอด ทางเจ้าหน้าที่ทหาร จึงได้ควบคุมตัวไว้ทันที ทราบชื่อ นายณัฐพงศ์ จำปาแก้ว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.9 ต.บ้านเล่า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมทำการตรวจค้นรถยนต์ พบของกลางเงินสดที่กดจากตู้เอทีเอ็ม จำนวน 19,000 บาท รายชื่อบัญชีลูกค้าร่วม 100 ราย โทรศัพท์ 2 เครื่อง ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2561
เบื้องต้น นายณัฐพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ทำมานานร่วม 2 ปี โดยมีลูกค้าที่มากู้จำนวนหนึ่ง และกู้เงินไปรายละไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท ทุกวันจะขับรถมากดเงินค่าดอกเบี้ยของลูกค้าที่ส่งผ่านทางตู้เอทีเอ็มธนาคาร ในปั๊มน้ำมันเซลล์ สี่แยกไทยแอร์โร่ หลังจากได้เงินก็จะขับรถกลับ อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร และยังบอกอีกว่า ต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับเจ้าหน้าที่ผมเกรียนภายหลังถูกทหารจับกุมและนำส่งตำรวจ ปรากฎข่าวว่า ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ปล่อยตัวนายณัฐพงศ์ ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก โดยอ้างว่าไม่มีเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย
ล่าสุด ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ไม่ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ภายหลังบันทึกการจับกุมแล้ว ไม่ปล่อยไปตัวมีการควบคุมตัวไว้ไม่ใช่ในห้องขัง เพราะหนี้นอกระบบต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร พยานบุคคล เพื่อสืบสวนขยายผล
พล.ต.ต.ถาวร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนควบคุมตัวสอบสวน ขยายผล เพราะต้องแจ้งข้อหาขออนุมัติหมายจับต่อศาล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งขยายสืบสวนชายผมเกรียนที่นายณัฐพงศ์กล่าวอ้างว่าจ่ายค่าคุ้มครองเดือนละ 2,000 บาทอีกด้วย