ชมป่าวัดท่าไชย ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่“พ่อเฒ่าสงัด อินมะตูม”วัย 98 ปีปลูกไว้ 30 กว่าปีแล้ว

29 พฤษภาคม 2561 วันวิสาขบูชา ตรงกับวันต้นไม้แห่งชาติ ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าปลูกที่วัดท่าไชย ม. 2 ต.มะตูม  อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พันธุ์ไม้ใหญ่หลากหลายชนิด สัก ยางนา ประดู่ ไม้แดง ตะเคียน ยืนตระหง่านสูงใหญ่ ปกคลุมพื้นที่ 36 ไร่ริมแม่น้ำน่าน มานาน 30 กว่าปีแล้ว  เป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสัตว์ เป็นแหล่งเรียนรู้ ต้นแบบของคนปลูกป่า ด้วยฝีมือปลูกและดูแลโดยพ่อเฒ่าสงัด  อินมะตูม วัย 98 ปี 

วัดท่าไชย เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของอ.พรหมพิราม ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก อยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 20 กิโลเมตร มีพื้นที่วัดประมาณ 42 ไร่  เป็นพื้นที่ป่า 36 ไร่ ที่เหลือเป็นอาณาบริเวณวัด ศาลาการเปรียญ โบสถ์ กุฏิ ฌาปนสถาน  สภาพปัจจุบันปี 2561 เขียวขจีด้วยผืนป่าใหญ่ขึ้นปกคลุม ในอดีตช่วงปี 2524 ชายวัยเกษียณ นายสงัด  อินมะตูม อายุประมาณ 60 ปีในยุคนั้น มีบ้านพักอยู่ห่างจากวัดท่าไชยประมาณ 200 เมตร ได้ใช้เวลาทุกวันอุทิศให้กับการปลูกป่า เก็บเมล็ด เพาะต้นกล้า จากป่าดั้งเดิมในวัดท่าไชย บริเวณที่เป็นป่าช้าในอดีต ( ปัจจุบันเป็นเมรุ ) มาเพาะชำในกระป๋องนม ดูแลให้เติบใหญ่ ค่อย ๆ นำไปปลูกในพื้นที่ของวัด ไปกินอยู่หลับนอนในป่าทุกของวัดทุกวัน

จากการเก็บข้อมูลต้นไม้ที่พ่อเฒ่าสงัดปลูกและดูแล เสริมในป่าดั้งเดิมของวัดตั้งแต่ปี 2524 ในวัดท่าไชย พ่อเฒ่าสงัดปลูกจำนวน  4,735 ต้น พันธุ์ไม้ที่ปลูกประมาณ 17 ชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นต้นสัก ยางนา ตะเคียน ประดู่ ชิงชัน พะยอม มะค่า  ฯลฯ จำนวนมาก เส้นผ่าศูนย์กลางในปัจจุบันมากกว่า 30 เซนติเมตร นอกเหนือจากวัดท่าไชยแล้ว ในอดีตลุงสกัดยังนำพันธุ์ไม้ที่เพาะ แจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป รวมถึงนำไปปลูกตามวัดต่าง ๆ ที่ใกล้เคียง ในเขตต.จอมทอง  ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลกอีกด้วย

ปัจจุบัน  พ่อเฒ่าสงัด  อินมะตูม วัย 98 ปี ไม่ได้มาดูแลผืนป่าที่วัดท่าไชยได้ 6 ปีแล้ว เนื่องจากสภาพร่างกายที่สูงอายุมาก และประสบอุบัติเหตุล้มลง กระดูกสะโพกหัก ต้องดามเหล็ก ลูกหลาน ได้กำชับและดูแลให้พักอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านพักเท่านั้น ที่บ้านเลขที่ 52 ม.2 ต.มะตูม  เพราะเกรงกว่าพ่อเฒ่าสงกัดจะเข้าไปดูแลป่าและเกิดอุบัติเหตุล้มได้อีก แต่เจ้าตัวก็ยังเดินเหีนอยู่ในบ้านพักตัวเองได้ และยังมีความจำได้ดี และยังคิดถึงป่าที่ปลูกอยู่ทุกวัน

พ่อเฒ่าสงัด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในหลวงบอกว่าปลูกต้นไม้กัน เพราะต่อไป หมดจากรุ่นเรา จะไม่มีป่าแล้ว ที่วัดท่าไชยมีพื้นที่เยอะ จึงปลูกต้นไม้เรื่อยมา

ปี 2536 รับรางวัลบุคคลดีเด่นในการร่วมปลูกต้นไม้โครงการคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ปี 2548 โล่เกียรติคุณสาขาการส่งเสริมและพัฒนาป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรางวัลลูกโลกสีเขียวครั้งที่ 7 ในปี 2548

จากบันทึกในเว็ปไซด์มอบรางวัลลูกโลกสีเขียวให้พ่อเฒ่าสงัดเมื่อปี 2548 ตอนหนึ่งระบุว่า “เกือบทุกวันเป็นเวลา 25 ปีมาแล้วที่ชายชราร่างเล็กแห่งบ้านท่าไชย ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เข้ามาดูแลพื้นที่ของวัดท่าไชย ที่อยู่ใกล้บ้านเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ตามสัจจะสัญญาที่ให้ไว้กับพระอาจารย์สาม พระหมอยาเจ้าอาวาสวัดท่าไชย เมื่อก่อนปี 2524 ลุงสงัด อินมะตูม ดูแลป่าวัดท่าไชยตามลำพังด้วยความสุข ความว่างเปล่า ไม่มีสิ่งตอบแทน ด้วยความคิดที่ว่า “ที่เป็นของวัด ป่าเป็นของพระราชินี” จากประสบการณ์ที่สร้างสม ลุงสงัด ทิดผู้คงแก่เรียนที่เคยบวชเรียนมาแล้ว 3 พรรษา ใช้วนวัฒนวิธีภูมิปัญญา พื้นบ้านดูแลป่าวัดท่าไชยและขยายพันธุ์ไม้ในกระป๋องนม สู่วัดใกล้เคียงและผู้สนใจทั่วไปปีละเป็นหมื่นต้น เป็นตำนานคนดูแลป่าวัดท่าไชย”

นายณัฐวุฒิ ลำโนรีอายุ  47 ปีหลานชายพ่อเฒ่าสงัด เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ต้องคอยดูแลพ่อใหญ่ให้อยู่บ้าน เพราะอายุมากแล้ว กลัวว่าจะแอบไปป่าที่วัดท่าไชยอีก เพราะเคยไปแล้วล้มมาครั้งหนึ่งเมื่ออายุ 92 ปี ซึ่งตั้งแต่ช่วงที่ตนยังเป็นเด็ก ก็เห็นกิจวัตรประจำวันของพ่อใหญ่นำกระป๋องนม ที่ขอชาวบ้านมาเจาะลู เพื่อเพาะกล้าไม้ และจะไปปลูกป่า รดน้ำ ถางวัชพืช ทุกวัน

นายเล  ลีลา  ไวยาวัจกรวัดท่าไชย ม.2 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม   เปิดเผยว่า เห็นตั้งแต่ลุงสงัดมาปลูกป่าตั้งแต่ช่วง 30 กว่าปีก่อน มาวัดดูต้นไม้ทุกวัน เป็นผืนป่าที่น่าจะอุดมสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ในบรรดาวัดต่าง ๆ ในจ.พิษณุโลก

พระอธิการแบน ปัญญาวุโธ เจ้าอาวาสวัดท่าไชย เปิดเผยว่า  จะรักษาผืนป่าวัดท่าไชยนี้ให้เป็นสมบัติของชนรุ่นหลังต่อไป การพัฒนาของวัด จะพัฒนาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัด ทำทางเดินให้ศึกษาธรรมชาติ แต่วัดไม่มีทุนมาก จึงค่อย ๆ พัฒนาไป

…………………………………………………………………………………………………………………………..

 

แสดงความคิดเห็น