จังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้โครงการส่งเสริมศักยภาพการค้า การลงทุนโครงข่ายคมนาคมและระบบ Logistics ในการประชุมนานาชาติระเบียบเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย ครั้งที่ 4 ที่ 3 ประเทศร่วมมือประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย ครั้งที่ 4
วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ที่โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานพิธีเปิดการจัดประชุมนานาชาติกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้โครงการส่งเสริมศักยภาพการค้า การลงทุน โครงข่ายคมนาคมและระบบ Logistics การประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย ครั้งที่ 4 โดยมี ดร.บุญทรัพย์ พาณิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทานมหาวิทยาลัยนเรศวร นายฐิติ วิศวชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 นายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ( จังหวัดตาก,สุโขทัย,พิษณุโลก,อุตรดิตถ์,เพชรบูรณ์ ) , หน่วยงานภาครัฐและองค์กรรัฐมอญ,รัฐกระเหรี่ยง, ประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ , แขวงไชยบุรี,แขวงหลวงพระบาง,ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วมการประชุมกว่า 300 คน
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า การประชุมเตรียมการการประชุมนานาชาติระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย ครั้งที่ 4 ในวันนี้ เป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ ผู้แทนจากแขวงไซยะบูลี แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, ผู้แทนจากรัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เดินทางมาร่วมประชุมจำนวนมาก ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย นี้เป็นแนวเส้นทางที่เชื่อมโยง 3 ประเทศ เข้าด้วยกัน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา สุขภาพ และโลจิสติกส์ จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายทั้งสินค้า ประชากร และสารสนเทศ อันจะนำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่าง 3 ประเทศ การดำเนินการเชื่อมโยงต้องได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากภาคเอกชนทั้ง 3 ประเทศ โดยภาครัฐของทั้ง 3 ประเทศจะเป็นหน่วยงานในการอำนวยความสะดวกเพื่อให้แนวระเบียงเศรษฐกิจนี้สามารถเชื่อมโยงอย่างเป็นรูปธรรมและได้มาตรฐานร่วมกันที่ยอมรับของทั้ง 3 ประเทศ วันนี้จึงเป็นนิมิตรหมายดีที่เราจะมาร่วมกัน ปรึกษาหารือ หาแนวทางออกตามแนวคิด “ความกินดีอยู่ดีของประชาชนใน 3 ประเทศ ต้องมาจากความร่วมมือร่วมใจกัน มิใช่จากการแก่งแย่งแข่งขันกัน”นายฐิติ วิศวชัยวัฒน์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 กล่าวว่า ระเบียงเศรษฐกิจหลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลําไย (Luangprabang-Indochina-Mawlamyine Economic Corridor; LIMEC) นั้น เป็นระเบียงเศรษฐกิจที่มีส่วนเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจอื่นๆ ในภูมิภาคนี้คือ ทุกภาคส่วนในภาคเหนือ ตอนล่าง 1 ของประเทศไทยอันประกอบด้วย จังหวัดตาก จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก แขวงหลวงพระบาง/แขวงไซยะบูลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และรัฐกะเหรี่ยง/รัฐมอญ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียน มา ได้ร่วมกันเปิดระเบียงเศรษฐกิจนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2558 โดยนําความเชื่อมโยงกันใน 5 ด้านคือ ด้านการค้าการลงทุน ด้าน การศึกษา ด้านสุขภาพ ด้านการท่องเที่ยว และด้านโลจิสติกส์ ซึ่งแต่ละรัฐ/จังหวัด/เมือง ล้วนมีความเชื่อมโยงกันอยู่ ขยาย เครือข่ายให้กว้างมากขึ้นด้วยมิตรภาพจากการจัดการประชุมนานาชาติฯ ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา เพิ่มโอกาสการเชื่อมโยงกันของทั้ง 3 ประเทศบนระเบียงเศรษฐกิจนี้ยกระดับการพัฒนา ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างศักยภาพของทั้ง 3 ประเทศ ให้เติบโตไปด้วยกันในทุกมิติ ดังนั้น การจัดการประชุมนานาชาติครั้งนี้ จึงมีความมุ่งเน้นในการที่จะผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกัน (Connectivity) ทั้งด้านกายภาพ องค์กร และประชาชน ของจังหวัด/รัฐ/เมือง ทั้ง 3 ประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านการค้าการลงทุน การศึกษา สุขภาพ การท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ เพื่อประโยชน์แห่งสามประเทศร่วมกัน