ตำรวจเมืองพรหมโชว์ฝีมือจับทันควันแก๊งลักตัดสายโทรศัพท์ของกลางอื้อซ่า พลเมืองดีแอบถ่ายคลิปขณะก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 2561 พ.ต.อ.สรกฤษณ์ น่วมด้วง ผกก.สภ.พรหมพิราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธวัชชัย ล่ามกิจจา รอง ผกก.สส.สภ.พรหมพิราม พ.ต.ท.สุรวัจน์ สุรวัฒน์มนตรี รอง ผกก.(สอบสวน) ในฐานะเจ้าของคดี และกำลังตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายปกรณ์ แปนประโคน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 3 ต.จันตูม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ และ นายปริญญา การะรัมย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาในคดีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ฯ พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บย 6406 บุรีรัมย์ จำนวน 1 คัน ครีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 2 ตัว ครีมตัดเหล็กขนาดเล็ก 2 ตัว สายโทรศัพท์เคเบิ้ลทองแดงขนาด 100 คู่ จำนวน 4 ม้วน ความยาวรวมกันถึง 197 เมตร มูลค่าความเสียหายจำนวน 47,000 บาท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณริมถนนสายพรหมพิราม – หนองตม หมู่ 2 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนร้ายจำนวนหลายรายขับรถยนต์กระบะมาจอดริมถนน และแอบลักลอบตัดสายโทรศัพท์บริเวณจุดเกิดเหตุ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบทันที พบชายต้องสงสัยจำนวน 4 ราย เดินวนเวียนอยู่ข้างเสาไฟฟ้า พอเห็นตำรวจถึงกับตกใจหน้าถอดสีได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง โดยทิ้งสายไฟที่ถูกตัดไว้ให้ดูต่างหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งติดตามไปสามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ 1 ราย คือ นายปกรณ์ แปนประโคน พร้อมแจ้งทางวิทยุให้สกัดจับรถกระบะคันต้องสงสัยสามารถควบคุมตัวคนขับ คือ นายปริญญา การะรัมย์ ตรวจค้นภายในห้องโดยสารพบของกลางครีมตัดเหล็กวางอยู่ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน
ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีไปได้จำนวน 3 ราย คือ นายสมชาย ยิ่งดี นายพุฒิพงศ์ สิงโต และ นายสิรวิชญ์ การะรัมย์ ได้เปิดห้องเช่าอาศัยร่วมกันอยู่ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม และได้วางแผนจะมาลงมือก่อเหตุโดยแบ่งหน้าที่มีทั้งคนขับรถกระบะจอดรอขนของ คนเฝ้าดูต้นทาง และคนปีนเสาไฟไปตัดสายโทรศัพท์ แต่งกายให้คล้ายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับเหมา เมื่อตัดแล้วจะนำสายโทรศัพท์ไปปลอกเอาทองแดงข้างในไปขายนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน แต่ปรากฏว่าครั้งนี้มีพลเมืองดีเห็นผิดสังเกตเสียก่อนได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งไปยังตำรวจให้มาจับกุมในทันที คาดว่ามีความชำนาญทำมาแล้วหลายครั้งหรือหลายพื้นที่ ซึ่งจะนำตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่หลบหนีไปได้นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับ พร้อมจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุดต่อไป.
…………………………………………………………………………………………………..