รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกน้ำตาลดิบพุ่งชนรถกระบะกลางสี่แยกไฟแดง สองพ่อลูกเจ็บหนักติดคาซากรถ กู้ภัยเร่งช่วยเหลือกลางสายฝน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 เม.ย. 2561 ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถกระบะมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในรถ บนถนนเส้นพิษณุโลก-สุโขทัย กลางสี่แยกไฟแดงเลี่ยงเมืองบ้านกร่าง หมู่ 1 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรเจ้าหน้าที่พยาบาลทีมกู้ชีพโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนตัวแม่ 70-3311 ตัวลูก 70-3312 นครสวรรค์ ด้านหน้ารถชนอัดกับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แบบแคป 2 ประตู สีดำ ทะเบียน ฒร 2226 กทม. สภาพตัวรถพังเสียหายยับเยินไปทั้งคัน ประตูฝั่งคนขับยุบถึงห้องผู้โดยสาร โดยมีผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับถูกแรงกระแทกอัดร่างติดอยู่คาพวงมาลัย ทราบชื่อต่อมา คือ นายธนพัฒน ซิ้มฉันท์ อายุ 57 ปี มีเลือดไหลออกที่จมูกและปาก ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย คือ นายอมรชัย ซิ้มฉันท์ อายุ 25 ปี บุตรชาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนขวา ทั้งคู่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 100/197 ซอยประชาอุทิศ 33 แยก 7 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. จากนั้นกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยกันงัดนำตัวออกมาจากซากรถอย่างทุลักทุเลนานกว่า 40 นาที ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกลงมา ก่อนส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก
จากการสอบสวน นายประจักษ์ ศักดิ์ทอง อายุ 38 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ คนขับรถบรรทุกพ่วง ให้การอ้างว่า ขณะที่ตนเองขับรถไปรับน้ำตาลดิบจาก จ.อุตรดิตถ์ และขากลับกำลังจะนำไปส่งที่ จ.นครสวรรค์ ได้ขับออกมาจากแยกสัญญาณไฟตามปกติ แต่มีรถกระบะคู่กรณีขับฝ่าสัญญาณไฟแดงมาอย่างกะทันหัน จึงไม่ได้สามารถหักหลบได้ทัน ทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจังเสียงดังสนั่น ส่งผลทำให้ผู้มีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังเกิดเหตุไม่ได้คิดหนีไปไหนจึงรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ทราบว่าเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ และกำลังจะกลับบ้านพักที่ กทม. แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน โชคดีไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องหน้ารถของรถกระบะ เพื่อเก็บหลักฐานหาสาเหตุที่แท้จริงครั้งนี้ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
……………………………………………………………………………………………………………….