เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 18 เมษายน 2561 ร.ต.อ วัชระ ประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถขนกัน 6 คันรวด บริเวณ ถนนหมายเลข 11 พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หลักกิโลเมตรที่ 270-271 ม.4 บ้านป่าแดง ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ รุดไปตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5กง 2684 กรุงเทพ ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ห่างออกไปอีกฝั่งถนนพบรถ กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาวหมายเลขทะเบียน กฉ 5346 แพร่ ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย และยังมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ มาสด้า สีดำหมายเลขทะเบียน 2กล 7366 กรุงเทพ กับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ณร 7197 กรุงเทพ และรถบรรทุกพ่วง18ล้อยี่ห้อ ฮีโน่ สีชมพูหมายเลขทะเบียน ตัวแม่ 70-1573 แพร่ และหมายเลขทะเบียนตัวลูก 70-1574 แพร่ ขวางถนนอยู่ในช่องทาง ห่างออกไปพบรถอีกคัน เป็นรถใช้ในการเกษตรบรรทุกไม้ สีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพพังยับเยินอยู่บนถนน
สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ถูกอัดก๊อปปี้อยู่คาซากรถ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้ามาดำเนินการตัดซากรถเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถทราบชื่อผู้ตายทั้ง 2 รายต่อมาคือ รายแรกคือนาย คงฤทธิ์ มูลโพธิ์งาม 24 ปี บ้านเลขที่ 59 ม.9 ต.สระบัว อ.ประทุมรัศต์ จ.ร้อยเอ็ด รายที่ 2 คือ น.ส ตุลาพร แสนทน 36 ปี 40/1 ม.8 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา และนำศพผู้ตายทั้ง 2 ราย ส่งให้แพทย์ทำการชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลพรหมพิราม
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นาย ธันวา อินอิว 29 ปี บ้านเลขที่ 46 ม.7 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นาย สาธิต บุญสวน 32 ปี บ้านเลขที่ 141/3 ม.3 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ น.ส ศิวรี แสนทน 31 ปี บ้านเลขที่ 189 ม.4 ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 3 รายพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจังหวัดอุตรดิตถ์
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกใช้ในการเกษตรบรรทุกท่อนไม้วิ่งมาตามถนน และจู่ๆได้ถูกรถยนต์เก๋งพุ่งเข้าชนท้ายอย่างจัง จนรถบรรทุกทางการเกษตรเสียหลักพุ่งข้ามเลนส์ไปอีกฝั่งถนน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์ปิกอัพของผู้ตายวิ่งสวนมาจึงพุ่งเข้าชนอย่างจัง และยังมีรถยนต์เก๋งมาสด้าและรถยนต์ฟรอจูนเนอร์วิ่งตามมาเมื่อเห็นเหตุการณ์จึงงเบรคกระทันหัน เป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อที่วิ่งตามหลังมาเบรคไม่อยู่พุ่งเข้าชนรถยนต์ทั้ง 2 คันอย่างจัง จนรถทั้งหมดกระเด็นไปคนละทิศละทาง ปิดขวางถนนทั้ง 2 ฝั่งถนน ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ซึ่งอย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้ขับขี่อย่างระเอียดอีกครั้ง ถีงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ในครั้งนี้พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.