ตำรวจภูธรภาค 6 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ระหว่างวันที่ 1 – 10 เม.ย.61 รวม 10 วัน เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการเกิดอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดและตรวจยึดอาวุธปืน จำนวนมาก
เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 11 เม.ย. 2561 พลตำรวจตรี จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 6 เป็นประธานแถลงข่าวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ระหว่างวันที่ 1 – 10 เม.ย.61 รวม 10 วัน เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการเกิดอาชญากรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย รวมจำนวน 1,934 ราย ผู้ต้องหา 2,151 คน คดีชีวิต ร่างกาย และเพศ จับกุม 15 ราย ได้ผู้ต้องหา 17 คน คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ จับกุม 28 ราย ได้ผู้ต้องหา 29 คน ,คดีฐานความผิดพิเศษ จับกุม 15 ราย ได้ผู้ต้องหา 17 คน ,คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย จับกุม 1,876 ราย ได้ผู้ต้องหา 2,088 คน พร้อมทั้งสามารถตรวจยึดของกลาง อาวุธปืน จำนวน 178 กระบอก ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 143,799 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 57 ราย
พลตำรวจตรี จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทาง ตำรวจภูธรภาค 6 ได้เปิดศูนย์อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 โดยให้ทุกหน่วยกวดขันจับกุมใน 10 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1.ไม่มีใบขับขี่ 2.ไม่สวมหมวกนิรภัย 3.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 4.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 5.ความเร็วเกินกำหนด 6.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 7.ขับรถย้อนศร 8.ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ 9.แซงในที่คับขัน 10.เมาสุรา โดยให้เน้นกวดขันจับกุมใน 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ 1.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ขับรถโดยไม่สวมหมวกนิรภัย 4.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 5.ขับรถโดยไม่รัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย นอกจากนี้ยังได้มีการสุ่มตรวจสารเสพติดคนขับรถสาธารณะในสถานีขนส่งต้นทาง สถานที่พักรถระหว่างทาง และสถานีขนส่งปลายทาง และจัดให้มีจุดบริการประชาชน จำนวน 395 จุด จุดตรวจ/จุดสกัด จำนวน 257 จุด ชุดเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 211 ชุด และชุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จำนวน 198 ชุด รวมใช้กำลังตำรวจทั้งสิ้น 7,140 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้พี่น้องประชาชน
รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวอีกว่า ฝากประชาสัมพันธ์โครงการแอปพลิเคชั่น Police I Lert U ซึ่งเป็นแอปสำหรับแจ้งเหตุร้ายผ่านทางสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถแจ้งเหตุร้ายถึงตำรวจได้เร็วขึ้น และได้ข้อมูลครบถ้วน ทั้งเรื่องพิกัดแผนที่จุดเกิดเหตุ รูปภาพ และรายละเอียดเหตุการณ์จากผู้แจ้งเบาะแส จะส่งถึงตำรวจในท้องที่โดยตรง เข้ามาที่ห้องปฏิบัติการศูนย์ 191 แต่ละจังหวัด
////////////