ไร่ภูแสงดาว อ.วังทอง เปิดรับนักท่องเที่ยว เชิญชิมลิ้นจี่ไร้เมล็ดพันธุ์ค่อมหอมลำเจียก ที่ผลเล็กตามสายพันธุ์ตระกูลค่อม แต่เรื่องรสชาติไม่แพ้ใคร นอกจากไม่มีเมล็ดแล้ว ยังหวาน กรอบ อร่อย เนื้อแห้ง เปลือกแข็งไม่ช้ำง่ายเหมาะสำหรับเป็นของฝากสงกรานต์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ไร่ภูแสงดาว ม.10 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ไร่เกษตรผสมผสานปลูกผลไม้ยืนต้นนับ 10 ชนิด ของนายภูวเดช ขอผล หรือคุณตุ๊ก เกษตรกรรุ่นใหม่ในวัย 37 ปี ที่ขณะนี้ต้นลิ้นจี่ไร้เมล็ดพันธุ์ค่อมหอมลำเจียก กำลังให้ผลผลิตเต็มที่ หลังโพสผ่านโลกโซเชียลได้ผลตอบรับดีเกินคาด มีคนสั่งออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย เตรียมปรับปรุงไร่ภูแสงดาวให้เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้การทำไร่ผสมผสาน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชาวบ้าน ในรูปแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย
นายภูวเดช ขอผล หรือคุณตุ๊ก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองปกติประกอบธุรกิจส่วนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แต่ด้วยความที่มีใจรักในเรื่องการทำเกษตรผสมผสานตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้เริ่มศึกษาเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2534 ประกอบกับครอบครัวมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ประมาณ 40 ไร่ จึงได้เริ่มลงมือปลูกสวนเกษตรผสมผสานตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 10 ปี โดยในไร่จะปลูกพืชหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ลิ้นจี่ มะยงชิด มัลเบอรี่ ลำไย กระท้อน ขนุน โดยเฉพาะในช่วงนี้ ลิ้นจี่ไร้เมล็ดสายพันธุ์ค่อมหอมลำเจียก หรือที่เรียกกันว่าพันธุ์ค่อมสมุทรสงคราม กว่า 70 ต้น กำลังให้ผลผลิตแก่เต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว ตนจึงลองโพสแนะนำผ่านทางโลกโซเชียลปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด มีนักท่องเที่ยวตามมาเที่ยวถึงไร่ภูแสงดาว และเดินชิมลิ้นจี่ และประทับใจในรสชาติความหวาน เนื้อแห้ง เปลือกแข็ง ไม่ช้ำง่าย สั่งกลับบ้านเป็นจำนวนมาก
นายภูวเดชฯ บอกต่ออีกว่า หลังจากโพสโซเชียล ตนก็เริ่มเปิดไร่รับนักท่องเที่ยว ได้ 3 วัน ยอดลิ้นจี่ที่นักท่องเที่ยวสั่งติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยตอนนี้ประมาณ 400 กิโลกรัมแล้ว ไม่รวมออเดอร์ที่สั่งทางโลกโซเชียล เรียกว่าปีนี้ได้ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะตนขึ้นมาดูแลที่ไร่ด้วยตนเอง ตั้งแต่ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2560 ที่ต้นลิ้นจี่เริ่มแตกใบ ออกช่อ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะจะมีศัตรูพืชอย่างเช่น ไร่สนิม แมงค่อมทอง มาค่อยกัดกินใบอ่อน ทำให้ช่อไม่สมบูรณ์ส่งผลให้ผลลิ้นจี่ไม่สมบูรณ์เพราะถูกดูดน้ำเลี้ยง ตนจึงใช้น้ำหมักชีวภาพ พด.7 ของกรมพัฒนาที่ดินที่แจกให้ มาผสมกับใบยาสูบ และสะเดา ใช้ฉีดพ่นเพื่อไล่ศัตรูพืชทำให้ในปีนี้ผลผลิตลิ้นจี่ออกดีสมบูรณ์เกือบ 100% คาดว่าผลผลิตจะหมดในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้
คุณกรุณา ด่านสีทอง นักท่องเที่ยวชาว อ.วังทอง ได้บอกว่า เห็นไร่ภูแสงดาวจากโลกโซเชียล เพราะเป็นคนที่ชอบการทานผลไม้อย่างลิ้นจี่มาก เลยชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ไร่ เดินชิมจนชื่นใจและสั่งกลับบ้านวันนี้ 24 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ส่วนคุณยายบุญมา เขียวอินทร์ อายุ 80 ปี เป็นป้าของคุณตุ๊กเจ้าของไร่ที่มาช่วยแพ็คลิ้นจี่ให้ในวันนี้ได้บอกว่า ลิ้นจี่นอกจากจะทานสดอร่อยแล้ว นำไปทำเป็นลิ้นจี่ลอยแก้วแช่ตู้ไว้รับประทานเย็นๆ ก็ชื่นใจอร่อยไม่แพ้กัน ถือว่าเป็นการถนอมอาหารอีกทางนึงด้วย
สำหรับใครที่สนใจหรือชื่นชอบการรับประทานผลไม้อย่างลิ้นจี่ โดยเฉพาะลิ้นจี่พันธุ์ค่อมหอมลำเจียก ที่ให้รสชาติความหวาน กรอบอร่อย ก็สามารถมาอุดหนุนหรือเที่ยวชมไร่ภูแสงดาวได้ ส่วนราคาก็ไม่แพง หน้าสวนเก็บกันสดๆ ราคาเพียงกิโลกรัมละ 35 บาท หรือ 3 กิโล 100 บาทกันไปเลย หรือไม่สะดวกเดินทางมาก็สามารถสั่งออเดอร์ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 089-8883809