จับ 2 นายพรานตั้งแคมป์ล่าสัตว์เจอของกลางหมูป่า-ลิงลมรมควัน

สามพรานหนุ่มสุดเหิมตั้งแคมป์ก่อกองไฟล่าสัตว์ กำลังเปิบเมนูเด็ดหมูป่าและลิงลมรมควัน ที่ป่าห้วยเดื่อ จ.เพชรบูรณ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เปิดยุทธการ 3 เกาะติด 3 ปฏิบัติรักษาป่า ส่งจนท.ป่าไม้ลาดตระเวนในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด จ.พิษณุโลก จ.อุตรดิตถ์ จ.เพชรบูรณ์

วันที่ 5 เม.ย. 2561 นายนิพนธ์  จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (สบอ.11) จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากเปิดยุทธการ 3 เกาะติด 3 ปฏิบัติ รักษาป่า” ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตรอยต่อพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จ.พิษณุโลก จ.อุตรดิตถ์ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากกฎว่าได้รับรายงานจาก นายพรชัย  ศรีศักดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก ว่ามีผู้กระทำความผิดเข้าไปล่าสัตว์ บริเวณป่าห้วยเดื่อ หมู่ 5 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันเข้าจับกุมทันที พบมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน ได้ตั้งแคมป์อยู่ข้างกองไฟ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าถอดสีตกใจพากันวิ่งหลบหนีไปได้ 1 คน สามารถติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ 2 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายวิทยา  พุทธรักษา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 13 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์ และ นายคัมภีร์  ศรีวิเศษ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/3 หมู่ 13 ต.บ้านโคก อ.เมืองเพชรบูรณ์  พร้อมของกลางซากหมูป่ารมควัน จำนวน 33 กก. ซากลิงลมรมควัน จำนวน 200 กรัม อาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง 15 นัด มีดปลายแหลม 3 เล่ม เปล 3 ผืน หม้อสนาม 1 ลูก เป้ถุงปุ๋ย 3 ใบ

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาในป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยได้ใช้อาวุธปืนล่าหมูป่ากับลิงลมได้ในตอนกลางคืน แล้วได้ช่วยกันชำแหละย่างรมควันบนหิ้งย่างเพื่อแบ่งกันกิน ส่วนที่เหลือจะนำไปขาย กระทั่งสุดท้ายมาถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด จึงแจ้งความดำเนินคดีในฐานความผิดร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโคก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

…………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น