วันที่ 30 มี.ค. 2561 ที่ห้องประชุม สภ.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก และ พ.ต.อ.กฤชกนก ด่านอุดม ผกก.สภ.แม่ท้อ ให้การต้อนรับ นายอูทู หลุ่ย ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ที่เดินทางมาพร้อมกับคณะ รวมถึงสื่อมวลชนจากฝั่งเมียนมาจำนวนมาก เพื่อติดตามความคืบหน้าให้การช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมาซึ่งประสบอุบัติเหตุไฟไหม้รถทัวร์ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในเรื่องของคดีและการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย แบ่งเป็นผู้หญิง 18 ราย ผู้ชาย 2 ราย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้นำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะนำส่งไปชันสูตรพลิกศพหาดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลพุทธชินราช และ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะทราบผลดังกล่าว
ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาอีกจำนวนกว่า 186 ราย ที่ร่วมเดินทางมาพร้อมกับคณะรถทัวร์ครั้งนี้ถึง 4 คัน ได้รวมตัวกันอยู่ที่ สภ.แม่ท้อ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมชาติ บางคนยังขวัญเสียทำใจไม่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา บางรายไม่ขอเดินทางไปทำงานต่อ ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่ฝั่งเมียนมากำลังเดินทางมาดูศพญาติของตัวเองแต่ไม่มีหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง จึงต้องขออนุญาตผ่านแดนชั่วคราวเพื่อติดต่อนำเอกสารมายืนยันตัวบุคคลรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ จ.เมียวดี แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่ทราบว่าเป็นศพใคร เนื่องจากถูกไฟเผาไหม้จนเกรียมจำเคล้าเดิมไม่ได้
ด้าน
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการไทยได้อำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านให้กับแรงงานชาวเมียนมาที่ยังไม่ได้ไปทำงานยัง จ.ปทุมธานี ดูแลเรื่องที่พักอาหารการกิน ที่หลับที่นอน และจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาดูแลด้านสภาพจิตใจ ส่วนค่าเสียหายประกันชีวิตนั้นรถทัวร์คันประสบเหตุได้ทำพรบ.ไว้กับบริษัท เคเอสเค ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินประกัน พรบ. เยียวยาค่าเสียหายเบื้องต้นศพละ 300,000 ค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 80,000 ค่าชดเชยการนอน รพ.วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน ในส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลทางการเมียนม่าได้ร้องขอให้ทางการไทยเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เพราะทางเมียนมามีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่พร้อม 
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นายอูทู หลุ่ย ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บชาวเมียนมา จำนวน 2 ราย ได้สอบถามอาการด้วยความเป็นห่วงพร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังไปดูศพผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย ซึ่งถูกห่อคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีขาวยังไม่สามารถระบุเพศได้ ทั้งนี้ทางการเมียนมายังกล่าวขอบคุณทางการไทยที่ได้ดำเนินการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายบัณฑูร วิฑูร อายุ 48 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ คนขับและเป็นเจ้าของรถทัวร์ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนเองรับแรงงานเมียนมามาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 47 คน ขับเดินทางตามปกติและจู่ๆ ก็ได้กลิ่นควันเหม็นไหม้ ก่อนจะมีไฟลุกที่ห้องเก็บสัมภาระกลางรถด้านล่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนเองได้จอดรถทันทีและเปิดประตูด้านหน้า 1 บาน ประตูกลาง 2 บาน ส่วนประตูด้านท้ายซึ่งเป็นประตูฉุกเฉินไม่สามารถเปิดออกได้ ชาวเมียนมาที่อยู่ในอาการตกใจได้สำลักควันไฟหนีตายไปรวมกันอยู่ด้านท้ายรถในสภาพที่ถูกไฟคลอกไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ส่วนบางรายที่ยังพอมีสติก็ใช้ของแข็งทุบและใช้เท้าถีบกระจกให้แตกหนีกระโดดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดกับคนขับรายนี้ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วทั้งหมด.
………………………………………………………………………………
