สถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน มอบโล่เป็นขวัญกำลังใจ แก่เกษตรกรพิษณุโลกตัวอย่าง ที่ใช้ชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง และได้คิดวิธีทำฟาร์มมดแดงในสวนมะม่วง ขายไข่มดแดงทั้งในและต่างประเทศ คิดทำแรก ๆ ยังไม่เท่าไหร่ แต่เกษตรกรรายนี้ยั่งยืนยาวนานมากว่า 5 ปี
ที่บ้านสวนมะม่วงและฟาร์มมดแดง หรือศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินของ นายบุญชู คิดสันเที๊ยะ เลขที่ 416 หมู่ที่ 4 บ้านเจริญผล ตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน พร้อมคณะ ได้ทำการมอบโล่เพื่อที่จะส่งเสริมคนที่สามารถจะสร้างนวัตกรรมทางความคิดจนกระทั่งเป็นเศรษฐกิจพอเพียงได้
พลเอก ศิริ ฯ กล่าวว่า ลุงบุญชู ถือว่าเป็นคนที่เฉลียวฉลาด เป็นปราชญ์ชาวบ้านที่แท้จริง ได้วิจัยเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา และอาชีพการเลี้ยงมดแดงนี้ ก็ศึกษาด้วยตนเองจนเข้าถึงชีวิตของมดแดง จนเป็นผลสำเร็จ เป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรรายอื่น
ลุงบุญชู ฯ กล่าวหลังจากรับโล่ว่าดีใจมากที่ยังมีหน่วยงานและผู้ใหญ่ให้ความสำคัญ จึงเป็นกำลังใจอย่างดีทำให้ตนเองและครอบครัวสามารถสู้ต่อไปได้ และยังกล่าวถึงการเลี้ยงฟาร์มมดแดงในสวนมะม่วงนี้ว่า จุดเด่นอยู่ที่ต้นทุนต่ำ ค่าอาหารก็วันละประมาณ 20 บาท เมื่อเก็บไข่ขาย ก็จะได้ประมาณ 400-500 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม การริเริ่มทำนั้นใครก็ทำได้ แต่ทำให้ยาวนานและพัฒนานั้นทำยาก ต้องใจสู้จริง ๆ วันนี้ได้ทำมาแล้วกว่า 5 ปี หลังจากเมื่อปี 54 ราคามะม่วงตกต่ำ เอามะม่วงไปขายที่ตลาดวังทอง ปรากฏว่าชาวบ้านเอาไข่มดแดงมาขาย ราคาดีกว่า ถึงขีดละ 40-50 บาท แป๊บเดียวหมด แต่มะม่วงขายไม่หมด จึงบอกตัวเองว่า จากการเกลียดมดแดง จงกลับมารักมดแดง เพราะเห็นลู่ทางแล้ว เวลาผ่านไปนานมากว่า 5 ปี ได้ลองผิดลองถูก ด้วยไอเดียตนเองล้วน ๆ ที่ต้องทำตัวเป็นมนุษย์ที่เข้าใจมดแดง แล้วค่อย ๆ หาวิธีคิดวิธีเลี้ยง ศึกษาธรรมขาติชีวิตของมดแดง ช่วงนี้แล้งแล้ว ตนยังได้คิดค้นวิธีทำฝนเทียมด้วยการปั๊มน้ำโปรยไปบนฟ้าเหมือนฝนตก น้ำก็รดมะม่วงไปด้วย มดแดงก็เข้าใจว่าฝนตก แล้วยังจุดประทัดให้เป็นเสียงฟ้าผ่าบริเวณใต้ลมตอนเย็น เป็นการกระตุ้นการทำรัง มดแดงก็จะเริ่มทำรัง ตัวนางพญามดก็จะสร้างไข่ มดงานก็จะนำอาหารที่เอาไปวางไว้ในรางพลาสติกสีแดง กินน้ำหวานสีแดง และรั้งเชือกตึงด้วยสีแดง เพราะมดแดงก็ต้องชอบสีแดงมากกว่าสีอื่น มันจะเดินมากินอาหาร และกลับไปเลี้ยงนางพญามดให้สร้างไข่ทีละมาก ๆ ทุกวันจะใช้ถุงปุ๋ยมัดปลายไม้ ตัวจะทาแป้งข้าวเจ้า กันมดกัด แล้วไปเขย่ารังบนต้นมะม่วง เก็บไข่แล้วปล่อยให้ไปทำรังใหม่ตามธรรมชาติ ส่วนไข่ก็นำมาขาย ตอนนี้มีแต่ไข่เล็กกิโลกรัมละประมาณ 300 บาท รายได้ก็จะอยู่ที่ เดือนละ 7000 – 8000 บาท ถ้าไข่ใหญ่ช่วงฝนมา จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 – 600 บาท ทำเงินได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท ที่สำคัญตลาดไข่มดแดงก็ไม่ตายมีออร์เดอร์มาเรื่อย ๆ ล่าสุดประเทศสวีเดนก็สั่งซื้อแบบไม่อั้น ชีวิตจึงสบาย ๆ ดีกว่าทำสวนมะม่วงอีก แต่กระนั้นลุงบุญชู ก็ยังมีรายได้จากมะม่วง จากการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงปลาอีกตกเดือนละ 15,000 บาท และตนยังดำรงชีพแบบพอเพียง ตามคำสอนของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ตนและครอบครัวได้ทำกันมานานจนเห็นผลแล้ว สุขภาพดี ชีวิตมีสุข เงินทองพอใช้ สบายใจ และยังแบ่งปันความรู้ทั้งหมดแก่คนที่สนใจอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณภาพข่าวคุณสุรเชษฐ์ มากร
………………………………………………………….