เมื่อเวลา 15 .30 น. วันที่ 17 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระวัดราชบูรณะ ว่ามีตัวเงินตัวทองเข้าไปในวิหารพระประธาน ซึ่งเป็นวิหารเก่าแก่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อทองดำ วัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก จึงได้ไปตรวจสอบ พบพระวรภัทร วรภทฺโท ผู้ช่วยเลขานุการเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ ซึ่งยืนอยู่ที่บริเวณหน้าวิหารดังกล่าว ขณะรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาจับกุม โดยไม่ทราบว่าตัวเงินทองตัวมาจากไหน กันแน่ เพราะภายในวัดไม่มีที่อยู่ที่เหมาะกับตัวเงินตัวทองเลย
พระวรภัทร กล่าวว่า ขณะนั่งพักผ่อนอยู่ภายในห้องกุฏิด้านหน้าวิหารหลวงพ่อทองดำ ปางมารวิชัย ยุคสุโขทัย ปรากฏว่ามีตัวเงินทองทอง ซึ่งไม่ทราบมาจากไหน ได้คลานผ่านมาที่หน้าวิหาร ก่อนจะคลานขึ้นบันไดหน้าวิหารเข้าไปด้านในทันที โดยไม่สามารถไล่ได้ทัน จากนั้นได้ตามไปดูข้างใน พบตัวเงินตัวทองยืนอยู่หน้าพระประธาน ก่อนจะวิ่งไปหลบด้านหลังพระพุทธรูป เนื่องจากมีผู้คนภายในวัดที่ทราบข่าวพากันเข้าไปดู ทำให้ตัวเงินทองตัวหลบซ่อนตัวอยู่ภายในวิหาร ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปในวิหาร นอกจากนั้นเกรงว่าตัวเงินทองจะคลานเดินไปถูกสิ่งของตกพังเสียหายได้ ทางพระลูกวัดได้โทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่กูภัยข่าวภาพเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการจับตัวเงินตัวทองดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ กู้ภัยข่าวภาพเดินทางมาถึง เพื่อจะจับตัวเงินตัวทองดังกล่าว จึงได้ไปตรวจสอบ พบว่าตัวเงินทองทองเข้าไปหลบด้านหลังตู้กระจกเก็บของเก่า ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับดึงออกมาได้ เพราะตัวเงินตัวทองจะดิ้นสะบัดตีตู้กระจกแตก สุดท้ายต้องใช้ไม้ค่อยๆแหย่ที่ตัวเงินตัวทองตื่นตกใจ กระทั่งตัวเงินตัวทองวิ่งออกมา ส่งเสียงขู่ฟ่อๆตลอดเวลา ทำให้ผู้คนและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างตกใจวิ่งหนีกันกระเจิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยหาจังหวะคว้าหางเจ้าตัวเงินทองเอาไว้ได้ พร้อมกับในบ่วงคล้องคอเอาไว้ เพื่อไม่ให้หันหัวมากัดได้ จากนั้นได้นำอกมาจากวิหาร โดยมีผู้คนทราบข่าวมาดูกัน ต่างวิพากษ์วิจารณ์และยังเชื่อกันว่าตัวเงินทองตัวอาจจะมาไหว้พระประธานในวิหารก็ได้ เพราะขณะกู้ภัยนำตัวออกมาประตูวิหาร ตัวเงินตัวทองพยายามใช้กงเล็บเกาะประตูเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จึงต้องดึงอย่างแรงถึงจะหลุด ก่อนจำออกมาข้างนอกได้
จากสภาพตัวเงินตัวทองไม่ทราบเพศ มีขนาดน้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 1.5 เมตร ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้ผ้าขาวมัดขาทั้งสี่ขา และมัดปากเอาไว้ เพื่อป้องกันดิ้นหลุด ก่อนจะนำไปล่อยสู่ธรรมชาติต่อไป
……………………………………………………………………..