วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลกที่ “ให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัย ในการประชุม ครั้งที่ ๒๒๗ (๒/๒๕๖๐) เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๐ ในส่วนที่ให้เสนอชื่อผู้ร้องสอด ซึ่งได้คะแนนสูงสุดเป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และให้นำเสนอกระทรวงศึกษาธิการเพื่อดำเนินการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งบุคคลดังกล่าวเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรต่อไป โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติดังกล่าว คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก”
ดังนั้น นายกสภามหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี (ชุดที่ ๓) ได้มีหนังสือเชิญผู้ผ่านการกลั่นกรองเป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้ง ๓ คน ได้แก่ ๑) ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี ๒) ศาสตราจารย์ ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ และ ๓) ศาสตราจารย์ ดร.สมยศ พลับเที่ยง มาแถลงนโยบายการบริหารงานต่อสภามหาวิทยาลัยนเรศวรด้วยตนเอง ซึ่งในการแถลงนโยบายการบริหารงานของผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี มีผู้ตอบรับมาแถลงนโยบายจำนวน ๒ คน ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี และศาสตราจารย์ ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ และมีผู้ปฏิเสธการตอบรับมาแถลงนโยบายจำนวน ๑ คน ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.สมยศ พลับเที่ยง
ภายหลังการแถลงนโยบายการบริหารงานต่อสภามหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว ศาสตราจารย์นายแพทย์ ดร.กระแส ชนะวงศ์ ได้ขอให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยนเรศวรได้อภิปราย จากนั้นลงคะแนนเสียง โดยมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวรครั้งที่ ๒๔๐ (๑๕/๒๕๖๐) เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เห็นชอบให้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษีเป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรและนำเสนอกระทรวงศึกษาธิการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรต่อไป
อนึ่ง ในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ และสภามหาวิทยาลัยนเรศวร จึงมีมติแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ตั้งแต่วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เป็นต้นไป