เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เจ้าหน้าที่การจากกองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลวังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 243 หมู่ที่ 1 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่ทรุดตัวพังลงไปในแม่น้ำวังทองเมื่อช่วงตี 2 ที่ผ่านมา โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายนิรุจน์ โพธิ์ศรี อายุ 48 ปี ลูกจ้างของสำนักงานชลประทานเชียงใหม่ ซึ่งรอดตายมาอย่างหวุดหวิดเพราะขณะเกิดเหตุได้นอนพักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวด้วย
นายนิรุจน์ เล่าว่า ช่วงเวลาดังกล่าวประมาณตี 1 ตนกลับจากงานศพและอาบน้ำกำลังเข้านอนก็เริ่มสังเกตว่าบ้านที่ปลูกไว้มีอาการเอียงแต่ไม่มาก จนกระทั่งระหว่างที่ตนกำลังเคลิ้มหลับได้ยินเสียงบ้านดังลั่นจึงลุกและกระโดดมาที่ประตูบ้าน บ้านก็เริ่มเอียงลงไปเลยๆจึงรีบดันประตูบ้านออกแต่ก็ถูกคานบ้านที่เอียงทับลงมาแต่กระเสือกกระสนจนพ้นออกมา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นบ้านทั้งหลังก็พังลงไปในแม่น้ำวังทอง ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากที่ท่อน้ำประปาแตกไม่ได้มีการซ่อมแซมทำให้น้ำกัดเซาะตลิ่งมาเรื่อยจนดินทรุด ทั้งนี้ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ประปามาดูแต่ก็ไม่ได้รับการซ่อมแซมแต่อย่างไร จนกระทั้งมาเกิดเหตุ ส่วนความเสียหายยังประเมินไม่ได้เพราะบ้านเป็นบ้านไม้เก่าอายุกว่า 120 ปี ปลูกสร้างมานาน
เบื้องต้นในนายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอวังทอง พร้อมด้วยนายสุชาติ กลิ่นสังข์ นายกเทศมนตรีตำบลวังทอง และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ได้เดนทางไปตรวจสอบบริเวณบ้านพัง เพื่อแนวทางในการช่วยเหลือ นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอวังทอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุของบ้านพัง นั้นน่าจะมาจากน้ำในแม่น้ำวังทองมีปริมาณมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อระดับน้ำยุบก็ทำให้ดินบริเวณตลิ่งสไลด์ลงจนทำให้บ้านพังของนายนิรุจน์ พังไปทั้งหลังจมในแม่น้ำวังทอง ซึ่งจากการตรวจพบว่าบ้านข้างเคียงอีก 2-3 หลัง ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดดินสไลด์เช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งสำรวจและหากเกิดอันตราย ก็ต้องแจ้งให้เจ้าบ้านย้ายออกเป็นการเบื้องต้น พร้อมทั้งจะดำเนินการปรับตลิ่งด้วยการฝังเสาเข้มและปรับตลิ่งให้คงทน
ขณะที่บ้านของนายนิรุจน์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือ ด้วยรื้อบ้านเพื่อนำทรัพย์สินขึ้นมาจากน้ำ เบื้องต้นนายนิรุจน์ไม่มีที่ดินที่อื่น แต่จะย้ายอยู่กับมารดาเป็นการเบื้องต้นก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งปรับให้ตลิ่งมั่นคง ก็จะหางบประมาณในการก่อสร้างอีกครั้ง
/////////////