เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 4 พ.ย. ร.ต.อ.ชัยยศ เนียมศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำพุ่งเข้าไปในบ้านเรือนประชาชน ริมถนนเส้นพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ กม. 250 ฝั่งขาเข้าเมือง หมู่ 5 บ้านคล้องช้าง ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา ที่เกิดเหตุหน้าบ้านพักเลขที่ 72 หมู่ 5 ต.วัดโบสถ์ พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีตี้ สีบรอนซ์-เทา ทะเบียนป้ายแดงหมายเลข ก 3237 พิษณุโลก สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า หลังคายุบ กระจกหน้าแตก ห้องเครื่องยนต์เสียหายพังยับเยิน น้ำมันเครื่องไหลเจิ่งนองทั่วพื้น ใกล้กันพบหลักกิโลเมตรหักร่วงตกลงไปอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง ส่วนคนขับทราบชื่อต่อมา คือ นายสุธิพัทธ์ แสงโสรัตน์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/12 ถ.เจษฎาบดินทร์เหนือ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ หลังเกิดเหตุได้คลานออกมานอกตัวรถได้อย่างปลอดภัย บาดเจ็บแค่เคล็ดขัดยอกตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะช่วยเหลือพาไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลวัดโบสถ์
จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นของนายเหรียญ มาเที่ยง อายุ 73 ปี ขณะเกิดเหตุได้ตัดกิ่งไม้อยู่ข้างบ้าน ทันใดนั้นมีรถเก๋งขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนเสาหลักกิโลเมตรที่อยู่ริมทาง ก่อนพลิกคว่ำหลายตลบแล้วลื่นไถลเข้ามาชนข้าวของหน้าบ้าน ซึ่งรถเก๋งไม่ได้ชนกับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ใกล้กัน เพียงเฉียดไปนิดเดียวอย่างหวุดหวิด ไม่เช่นนั้นอาจจะเจ็บหนักหรือเสียชีวิตได้ โดยนายสุธิพัทธ์ ผู้ประสบอุบัติเหตุ เล่าว่า กำลังจะขับรถไปรับแฟนสาวที่ จ.พิษณุโลก แต่ระหว่างทางขับมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดส่ายไปมาควบคุมไม่ได้จึงพุ่งชนเสาหลักกิโลเมตรและพลิกคว่ำดังกล่าว เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพระฝางที่คล้องคอติดตัวประจำ และพระหลวงพ่อทวดที่ตั้งไว้หน้ารถทำให้ตนเองรอดตายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
…………………………………………………………..