เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 60 พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 / ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาค ที่ 3 ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วย บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และคณะ มูลนิธิร่วมกตัญญู และหน่วยงานราชการในพื้นที่ จ.พิจิตร นำถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่ม ไปมอบให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางไผ่ อ.บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร จำนวน 2,200 ชุด พร้อมกับนั่งเรือท้องแบนนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในบ้านพักอาศัยที่ถูกน้ำท่วมสูงในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชน 
ทั้งนี้ในพื้นที่ จ.พิจิตร มีปริมาณน้ำฝนสะสม เกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้รับปริมาณน้ำมาจากอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เพราะมีปริมาณน้ำจำนวนมาก เพราะพื้นที่อำเภอบางมูลนากเป็นพื้นที่ลุ่ม มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ และน้ำในแม่น้ำน่าน ยังล้นตลิ่งเข้ามาท่วมในบางพื้นที่สูง 3 ถึง4 เมตร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งน้ำเหล่านี้รอการระบายลงสู่แม่น้ำน่าน
จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ทางกองทัพภาคที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 36 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้ทำการช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง ขึ้นในที่สูง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และทำการสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วม มอบถุงยังชีพ พร้อมน้ำดื่มในการช่วยเหลือเบื้องต้น
พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า วันนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย ได้สั่งการให้กองทัพบกร่วมกับองค์การกุศลต่างๆ วันนี้บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ จากมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำสิ่งของต่างๆที่ได้รับจากการบริจาค มาช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดพิจิตร เป็นน้ำใจคนไทยด้วยกันที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่ท่านทรงมีความห่วงใยต่อราษฎร ผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ท่านได้รับสั่งต่อ พณฯท่านนายกรัฐมนตรีมา ทางท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กองทัพบกประสานงานทุกภาคส่วน ที่มีจิตอาสาในการทำคุณงามความดี
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า การวางแผนระยะกลางและระยะยาว ได้มีการพูดคุยกับผู้ว่าพิจิตร จะมีการขุดลอกแม่น้ำสายเก่า ระยะทาง 127 กิโลเมตร ให้สามารถไหลผ่านได้ตลอด และในช่วงฤดูแล้งจะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร และการขุดลอกบึงสีไฟ เป็นแผนระยะยาวของรัฐบาลอยู่แล้ว ฟื้นฟูให้บึงสีไฟเป็นแหล่งกักเก็บน้ำแบบโบราณที่มีมา ปัจจุบันตื้นเขินมาก แปลกเป็นบึงแต่หน้าแล้งไฟไหม้ ฉะนั้นคนพิจิตรต้องร่วมกันไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว ไม่ใช่จังหวัดพิจิตรอย่างเดียว แต่ต้องคนพิจิตรทั้งหมดร่วมกันคิดร่วมกันสนับสนุน เพราะปัจจุบันมีการปิดกั้นเส้นทางแม่น้ำเก่า ต้องขอความร่วมมือถอนออกจากพื้นที่สาธารณประโยชน์ และจะทำการขุดลอกเป็นแก้มลิงใช้ในเวลาน้ำท่วม เวลาหน้าแล้งจะสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรกรรมได้