เวลา 10.30 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2560 ที่ศาลปกครองพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีการพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ บ.1/2560 ระหว่างศ.ดรรัตนะ บัวสนธ์ ผู้ฟ้องคดี สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ถูกฟ้องคดีและศ.พิเศษกาญจนา เงารังษี ผู้ร้องสอด โดยวันนี้ ทั้งผู้ฟ้องคดี และ ผู้ถูกฟ้องคดีมาฟังคำพิพากษาพร้อมเพียงกัน และเข้าฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลก ช่วงเวลา 10.30-เวลา11.25 น.โดยประมาณ
ผู้พิพากษาได้พิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. ผู้ฟ้องคือศ.ดร.รัตนะ บัวสนธ์ มีสิทธิในการฟ้องคดีหรือไม่ ศาลพิจารณาว่ามีสิทธิ์ฟ้อง 2. ผู้ถูกฟ้อง ( สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ) ที่มีมติให้ยุติการสรรหาอธิการบดีม.นเรศวร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 และดำเนินการกระบวนการสรรหาใหม่ ประเด็นนี้ ศาลปกครองเห็นว่า เป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมาย สภาฯ สามารถดำเนินการได้ตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัยนเรศวร 3.ผู้ถูกฟ้อง( สภามหาวิทยาลัย ) มีมติสภามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2560 เสนอชื่อศ.พิเศษดร.กาญจนา เงารังษี เป็นอธิกาบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือใหม่ ประเด็นนี้ ศาลปกครองพิษณุโลกพิพากษาให้เพิกถอนมติของสภามหาวิทยาลัยนเรศวร เนื่องจาก ผู้ที่ผ่านการพิจารณาได้คะแนนสูงสุด 3 รายชื่อจากคณะกรรมการสรรกา คือ ศ.พิเศษดร.กาญจนา เงารังษี ศ.ดร.ดิเรก ปัทมศิริวัฒน์ และศ.สมยศ พลับเที่ยง ไม่ได้มาแถลงนโยบายต่อสภาฯด้วยตนเอง เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ถูกต้องตามขั้นตอนสำคัญ
โดยศาลปกครองได้แจ้งกับผู้มาฟังคำพิพากษาว่า ถ้าไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ที่ศาลปกครองพิษณุโลก เพื่อส่งต่อไปให้ศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง
ภายหลังการพิจารณาคดี ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปกับศ.พิเศษดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับคำตอบว่า ยังต้องรอการคัดคำพิพากษาทั้งหมดก่อน และการพิจารณาเป็นเรื่องของสภา ไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้
ขณะที่ศ.ดร.รัตนะ บัวสนธ์ ผู้ฟ้องคดีนั้น ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นสำคัญคือศาลพิพากษาว่ามติของสภาฯวันที่ 8 มค. 60 ที่ให้ยุติกระบวนการสรรหา เป็นมติที่ถูกต้องด้วยกฎหมาย ส่วนมติของสภาฯวันที่ 14 มค. 60 ที่สภาฯเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ โดยเสนอชื่อศ.ดร.กาญจนา เป็นอธิกาบดี เป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้ให้ผู้เสนอชื่อทั้ง 3 คนได้แสดงวิสัยทัศน์ด้วยตนเอง หลังจากนี้ สภาฯอาจจะกลับไปพิจารณาทบทวนว่าจะดำเนินการอย่างไร มิอาจตัดสินใจแทนสภาฯได้ สภาฯอาจจะกลับไปเริ่มที่ขั้นตอนแรกใหม่ หรือ สภาฯจะให้ทั้ง 3 คน ที่ผ่านกระบวนการสรรหา มาแสดงวิสัยทัศน์ด้วยตนเอง สำหรับความเห็นของตนเคารพคำตัดสินของศาล และต้องการให้เรื่องยุติที่ศาลปกครองพิษณุโลก ที่ฟ้องร้องเพราะต้องการให้ศาลชี้ขาด กรณีข้อพิพาททางความคิดเห็นทางกฎหมาย และจะไม่อุทธรณ์ใด ๆ สถานการณ์ของม.นเรศวรควรจะก้าวพ้นกับดักตรงนี้ไป เพราะก้าวพ้นตรงนี้ไปหมดแล้ว ต้องเดินต่อไป ที่ผ่านมาเกิดความชะงันงันในการบริหารงาน
อนึ่ง กระบวนการสรรหาอธิกาบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร มีการสรรหามา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี 2559 ครั้งแรก ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ราย ไม่ได้รับเสียงข้างมากจากสภาฯ จึงเริ่มกระบวนการสรรหาครั้งที่ 2 และยุติการสรรหาครั้งที่ 2 ด้วยคำสั่งของสภาฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 พร้อมกับเริ่มกระบวนการสรรหาครั้งที่ 3 ในวันที่ 14 มกราคม 2560 ระหว่านั้น วันที่ 9 มกราคม 2560 ศ.ดร.รัตนะ บัวสนธ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย ผู้ที่ผ่านกระบวนการสรรหาทั้ง 3 ครั้ง จึงไปที่ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับกระบวนการสรรหาอธิบการบดีม.นเรศวร ในวันที่ 14 มกราคม 2560 และขอให้สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ถอนประกาศ ของสภามหาวิทยาลัยนเรศวรในเรื่องการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี และประกาศข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาอธิการบดี ( แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 กระทั่งมาสู่คำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลกในวันนี้ 5 ตุลาคม 2560