วันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ตลาดกลางสินค้าสหกรณ์และสินค้าเกษตรของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด บ้านคลองแค ม.5 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธานเปิดงาน ตลาดสินค้าสหกรณ์และสินค้าเกษตร เพื่อชุมชน โดยมีนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด นายอำเภอพรหมพิราม และหัวหน้าส่วนราชการ รอให้การต้อนต้อนรับ ทั้งนี้เนื่องจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาภาคเกษตร โดยมุ่งเน้นให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับสินค้าเกษตรสู่ความมั่นคง โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตจองเกษตรกรให้ดีขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยกระทรวงการเกษตรและสหการณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหการณ์เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาสินค้าเกษตรในภูมิถาค เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า บริการสถานที่ให้เกษตรกรมีที่วางจำหน่ายสินค้าของตนเอง และยังมีการวางแผนการผลิตและตลาดอย่างเป็นระบบเพื่อรองรับสินค้าของเกษตรกรจากแปลงใหญ่ เกษตรกรทฤษฎีใหม่ และเกษตรกรทั่วไป ก่อนจะพัฒนาให้เป็นตลาดกลางสินค้าการเกษตรของจังหวัดพิษณุโลกในอนาคต ซึ่งในวันนี้มีประชาชนและเกษตรกรจำนวนกว่า 500 คนมาเข้าร่วมงาน
หลังจากนั้น นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เดินเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆที่นำสินค้ามาจำหน่ายภายในงานในวันนี้มีเกษตรกรและสหกรณ์ต่างๆ ทั้งในจังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดใกล้เคียงได้นำสินค้าทางการเกษตรมาขายภายในงานวันนี้ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เดินจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก
นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ตลาดสินค้าสหกรณ์และสินค้าเกษตร เพื่อชุมชน แห่งนี้เกิดขึ้นได้จากสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม นายอำเภอพรหมพิราม และการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน และได้นำนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องการให้ตลาดสินค้าสหกรณ์และสินค้าเกษตร เพื่อชุมชน ให้เกษตรกรได้มีที่วางจำหน่ายสินค้าการเกษตรของตนเองเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวใช้ ใช้หนี้สินและลดต้นทุนการนำสินค้าไปขายในต่างอำเภอหรือต่างจังหวัด
ทั้งนี้ภายในงานยังมีการทำบันทึกข้อตกลง ระหว่างสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด และ นาแปลงใหญ่ โดยมีนายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และ นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เป็นสักขีพยาน ในการเซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ด้วย.
////////////