วันที่ 26 ก.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน นี้เป็นช่วงของการเกษียณอายุราชการ รวมทั้งคุณครู ซึ่งมีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ในม. 5 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่มีคุณครูสอน 4 คนรวมผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยเป็น 5 คนปรากฏว่า หลังจากสิ้นเดือนนี้คุณครูภายในโรงเรียนได้เกษียณอายุราชการ จำนวน 4 คน เหลือเพียง ผอ.คนเดียว โดยโรงเรียนแห่งนี้คือ โรงเรียนประชาสามัคคี สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 มีนายปรีชา ตุนาโป่ง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี โดยหลังจากพบวิกฤติขาดแคลนครูในช่วงว่างของการรอบรรจุคุณครูใหม่ จึงได้โพสต์ในโซเซียลขอความช่วยเหลือเนื่องจากโรงเรียนที่ประจำอยู่จะมีครูเกษียณอายุราชการ หรือปลดเกษียณหมดทั้งโรงเรียน จำนวน 4 คน ในวันที่ 29 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ส่งผลทำให้ทั้งโรงเรียนจะเหลือผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่เพียงคนเดียว และโรงเรียนจะเกิดภาวะขาดแคลนครูไม่มีครูสอนหนังสือแก่เด็กนักเรียน จึงขอให้ผู้ที่สนใจต้องการจะเข้ามาช่วยเหลือเป็นครูจิตอาสา สอนหนังสือให้แก่นักเรียนเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้น ระหว่างรอคำสั่งจากเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งอยู่ในขั้นตอนของทางราชการรอการคืนอัตรา เพื่อแต่งตั้งข้าราชการครูมาประจำตำแหน่งถาวรยังโรงเรียนแห่งนี้
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่โรงเรียนประชาสามัคคี ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนายปรีชา ตุนาโป่ง ผอ.โรงเรียนประชาสามัคคี แต่วันนี้พบว่า ผอ. ติดภารกิจเร่งด่วนในเรื่องของการเตรียมจัดงานเกษียณอายุให้กับข้าราชครูของโรงเรียนแห่งนี้ในช่วงเย็น แต่ก็มีครูอัตราจ้างมาทำหน้าที่สอนหนังสือและมีนักเรียนมาเรียนกันตามปกติ
โดยพบว่าวันนี้ ยังมีคุณครูที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ มาทำการสอนอย่างต่อเนื่อง ที่ชั้นป.1 นางพชร มาอยู่ ครูที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ สอนประจำชั้นปีที่ 1 เปิดเผยว่า จะสอนไปจนถึงวันสุดท้าย คือวันที่ 29 กันยายนนี้ ตนสอบที่โรงเรียนนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2547 และปีนี้ครูในโรงเรียนก็เกษียณพร้อมกัน 4 คน เหลือผอ.คนเดียว หลังจากนี้ก็จะต้องรอครูใหม่มาทำการสอน
นายจำลอง มาอยู่ อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนประชาสามัคคี เปิดเผยว่า ตนเองเคยเป็นครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่เกษียณอายุราชการไปแล้ว 3 ปี หลังทราบข่าวว่าโรงเรียนจะต้องมีครูเกษียณอายุราชการพร้อมกันหมดทั้งโรงเรียน จึงได้ขอเข้ามาช่วยสอนในเบื้องต้นก่อน เพราะมีความผูกพันและรักโรงเรียนที่เคยได้สอนมา ประกอบกับภรรยา คือ นางพชร มาอยู่ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการพร้อมกับ
น.ส.ทัศนีย์ ยิ้มประเสริฐ อายุ 25 ปี ครูอัตราจ้างโรงเรียนประชาสามัคคี เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งมาทำงานได้เพียง 1 เดือน เนื่องจากทางโรงเรียนเปิดรับสมัครสรรหาครูอัตราจ้างมาสอนหนังสือเด็กนักเรียน ซึ่งใช้งบประมาณของโรงเรียนโดยจะได้ค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท เพราะโรงเรียนแห่งนี้จะมีข้าราชการครูเกษียณอายุในวันที่ 29 ก.ย. ประกอบด้วย 1.นายชัยรัชต์ ทองน้อย 2.นายอนันต์ คงทอง 3.นางฉัฐมัญคมน์ สุวรรโณ 4.นางพชร มาอยู่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 คน ทำให้โรงเรียนต้องขาดแคลนครูมาทำหน้าที่สอนหนังสือ โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนทั้งหมด 60 คน ซึ่งปกติครู 1 คน จะดูแลนักเรียน 20 คน แต่ต้องผลัดกันดูและนักเรียนถึง 2 ห้อง หรือบางครั้งดูแลไม่ทั่วถึง ต้องการให้มีครูประจำห้อง ห้องละ 1 คน แต่ระหว่างที่รอคืนอัตราก็ขอวอนผู้มีจิตอาสามาช่วยสอนไปก่อนโดยไม่มีค่าตอบแทนให้แต่อย่างใด ล่าสุดก็มีผู้ที่สนใจแวะเข้ามาสอบถามบ้างแล้ว อาทิ ทหาร ตำรวจ เป็นต้น
ขณะที่ ด.ช.ภาณุวิชญ์ อินทรกำแหง อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจหลังทราบข่าวว่าครูจะเกษียณอายุราชการ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครมาสอนหนังสือ ปัจจุบันเพื่อนในห้องทั้งหมด 5 คน ก็ต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมาก จึงอยากให้มีครูมาสอนต่อไปอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายปรีชา ตุนาโป่ง ผอ.โรงเรียนประชาสามัคคี กล่าวว่าหลังจากเรื่องนี้ได้รายงานให้กับทางสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 แล้ว ก็ได้คุณครูที่จะบรรจุใหม่นั้น จำนวน 1 อัตรา และขณะนี้ทางโรงเรียนได้จ้างเอง อีก 1 ตำแหน่ง เพื่อให้มาช่วยสอนเป็นการเบื้องต้น โดยใช้งบประมาณของโรงเรียนมาจ้างสอน แต่ก็ยังไม่เพียงเพราะโรงเรียนต้องใช้คุณครู จำนวน 6 คนเพื่อสอนนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยแนวทางแก้ปัญหาตนเอง ได้ประกาศขอคุณครูจิตอาสา มาช่วยสอน โดยเฉพาะปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้มาสอนเป็นการเบื้องต้น ตอนนี้มีทหารจากกองทัพภาคที่ 3 จะมาสอนให้ถึงระเบียบวินัยให้แก่นักเรียน ,ครูพระ จากวัดใกล้โรงเรียน จะมาสอนเกี่ยวกับศีลต่างๆ ให้แก่นักเรียน และผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้สอนให้กับนักเรียนอีกด้วย
………………………………………………………….