ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังจาก ผศ. ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้วิจัยมะม่วงมหาชนก ที่สามารถต้านโรคมะเร็งได้และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลายชนิด ผลวิจัยดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสนใจและกล่าวชื่นชม เมื่อบวกกับจากกระแสผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ห่างไกลโรคและช่วยรักษาโรคร้ายได้ ทำให้ชาวสวนมะม่วงและประชาชนให้ความสนใจปลูกมะม่วงพันธุ์มหาชนกเพิ่มมากขึ้น
นายศิลป์ชัย ตระกูลทิพย์ เจ้าของสวน อ.ศิลป์ชัย ประธานชมรมผู้ปลูกมะม่วง อ.เนินมะปราง อดีตนายกสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย กล่าวว่า สำหรับมะม่วงมหาชนก ได้ปลูกไว้เพียง 30 ต้น ปลูกมา 10 กว่าปีแล้ว เนื่องจากในอดีตตลาดยังไม่กว้างมาก ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 15-25 บาท ตลาดรองรับขายผลมะม่วงสดส่งโรงงานแปรรูปน้ำผลไม้ทางภาคเหนือของไทย และส่งออกเป็นผลไม้ไปยังตลาดในประเทศญี่ปุ่น ผลผลิตมะม่วงมหาชน ที่ปลูกของสวนตนเฉลี่ยได้ปีละ 2 ตัน
แต่หลังจากมีกระแส มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก วิจัยมะม่วงมหาชนต้านมะเร็ง ได้ ก็มีชาวสวนมะม่วงสนใจจะขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงมหาชนกันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องการรอดูตลาดว่าจะขยายมากน้อยแค่ไหน แต่หากความต้องการสูง ก็จะขยายพื้นที่เพิ่ม เวลานี้ก็ได้เตรียมพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นแล้ว พร้อมกับมีการเปลี่ยนพันธุ์เปลี่ยนยอดเสียบต่อใหม่ได้เลย สำหรับมะม่วงมหาชนกที่ปลูกที่ จ.พิษณุโลก มีปัญหาคือเรื่องสี การขึ้นสีแดงสีม่วงน้อย เพราะสภาพอากาศไม่หนาวเย็นเท่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างเช่น จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ ที่ผลมะม่วงมหาชนกจะออกสีแดงได้เข้มดีกว่า นอกจากนี้ การปลูกมะม่วงมหาชนก ที่พิษณุโลก ต้องกระตุ้นได้ออกก่อนฤดูเพื่อป้องกันปัญหาแมลงวันทอง เจาะทำลายผลผลิตมะม่วงเสียหาย หากให้ออกตามฤดูก็ต้องเพิ่มการดูแล การห่อผลมะม่วงไม่ให้แมลงวันทองต่อยหรือเจาะผลได้ ซึ่งในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ทางสวนได้มีการฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกระตุ้นการออกช่อดอกเพื่อจะได้เก็บผลผลิตมะม่วงก่อนฤดูในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
ขณะที่นายวีระชัย สายต่างใจ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ภาพรวมจังหวัดพิษณุโลกมีพื้นที่ปลูกมะม่วงมากใน 3 อำเภอ คือ อ.เนินมะปราง อ.วังทอง อ.วัดโบสถ์ มีพื้นที่ ปลูกประมาณ 89,000 ไร่ สำหรับการปลูกมะม่วงมหาชนก จ.พิษณุโลก ในอดีต จ.พิษณุโลก มีการปลูกมะม่วงมหาชนกจำนวนมาก แต่ด้วยเรื่องของการตลาด ทำให้เกษตรกรหาช่องทางการตลาดที่ดีที่สุด ทำให้ในช่วงปัจจุบันเกษตรผู้ปลูกมะม่วงเปลี่ยนหันมาปลูกและขยายพันธุ์มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจำนวนมาก เพราะราคาดีกว่ามะม่วงมหาชน 1-2 เท่าตัว คือมะม่วงมหาชนก 1 กิโลกรัม ราคา 10 -20 บาท ขณะมะม่วงน้ำดอกไม้ ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 50-80 บาท อีกทั้งความต้องการของท้องตลาดมีสูง ตลาดการส่งออกต้องการมาก เกษตรกรส่งผลผลิตไปยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
แต่หลังจาก ผลวิจัยมะม่วงมหาชนก ที่สามารถต้านโรคมะเร็งได้และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลายชนิดออกมา อาจทำให้มะม่วงมหาชนกกลับมาบูมขึ้นอีกครั้งได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในปัจจุบันทำได้ง่ายมาก จากเทคโนโลยีการเปลี่ยนยอดจากมะม่วงต้นเดิม ทำให้ออกผลได้เร็ว ดีกว่าการเพาะเมล็ดและปลูกใหม่ซึ่งจะใช้เวลานานหลายปีกว่าจะออกผลผลิตได้ ทั้งนี้เกษตรกรต้องการความชัดเจนว่าตลาดต้องการมากเพียงใด หากกระแสดีจริงใช้เวลาเพียง 1 ปี มะม่วงมหาชนกจะเต็มพื้นที่ทันที ซึ่งเกษตรจังหวัดก็พร้อมส่งเสริมความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ