ผู้สื่อข่าวรายงาน พบเกษตรกรอีกหนึ่งที่เป็นต้นกล้าคืนถิ่น ทิ้งงานประจำจากเมืองหลวงกลับมาอยู่กับครอบครัวทำการเกษตรไร่นาสวนผสม ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุยเดช เกษตรกรรายนี้คือนางอระตรี ปานเกิด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 6 ต.เนินมะคึด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่ได้ออกจากงานตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล บริษัทการบินไทย กลับมาอยู่บ้านเกิดและครอบครัวของตนเอง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา
นางอระตรี เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร มา 4 ปี หลังจากนั้นได้เกิดความคิดว่าทำงานบริษัท ก็เป็นลูกจ้างไม่มีวันสร้างครอบครัวได้ จึงหันกลับดูครอบครัวตนเองที่มีอาชีพการเกษตรทำนา ที่ยังมีการใช้สารเคมีอยู่ ประกอบกับเห็นเกษตรกรหลายคนที่ประสบความสำเร็จในการยึดตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุยเดช จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อมาพัฒนาอาชีพการเกษตรที่บ้าน
โดยเริ่มแรกนั้นก็ไปเข้าคลอส 1 ไร่ 1 แสน จากนั้นก็ทดลองทำดูในพื้นที่ตนเอง ปรับพื้นที่ปลูกข้าว ปลูกพืชผักทั้งข้าวโพด ฟักทอง ถั่วลิสง หน่อไม้ เลี้ยงปลาธรรมชาติ เลี้ยงปูนา เลี้ยงไก่ไข่ เป็นต้น เพื่อหาเมล็ดพันธุ์ที่ดี ใช้ระบบชีววิถี ปลอดสารพิษ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกไว้รับประทานเอง ที่เหลือก็นำไปขายผ่านเฟสบุ้ค ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักทั่วไป ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารที่ปลอดสารพิษ จากการทำเกษตรกรพอเพียงไม่กี่เดือน ก็มีรายได้จากการขายเมล็ดพันธุ์ที่ตนเองและครอบครัวคัดไว้ พืชผักสวนครัวต่างๆ วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 300 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ได้ เพราะกลับมาอยู่บ้านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
นางอระตรี เล่าอีกว่า ตนเองเชื่อสนิทใจในทฤษฏีเกษตรพอเพียงของพระองค์ท่าน ทำให้เกษตรกรที่ดำเนินรอยตามอยู่ได้อย่างยั่งยืน มีพอกินพอใช้ ซึ่งในอนาคตตนเองและครอบครัวพัฒนาอาชีพการเกษตรที่บ้านตนเองให้เป็นรูปธรรมที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ได้นำความรู้ไปใช้กับครอบครัวตนเองอีกด้วย
ถือว่าเป็นเกษตรกรอีกหนึ่งที่เป็นต้นกล้าคืนถิ่น ที่กล้าทิ้งงานประจำ จากเมืองหลวงกลับมายึดอาชีพการเกษตรกับครอบครัว ทำไร่นาสวนผสม ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุยเดชสู่การเกษตรที่ยั่งยืน
////////////