ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบกับรถเร่ขายของตามบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ที่ไม่ธรรมดาคือเมนูอาหารต่างๆ ที่นำมาขาย ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูพื้นบ้าน ที่คนเมือง หาทานได้ยาก จึงเข้าไปสอบถาม ก็ทราบว่า พ่อค้ารถเร่คันดังกล่าว คือ คุณชุมพร นิ่มพัด หรือพี่ค้อน ในวัย 40 กว่าปี ที่มากับภรรยาคู่ชีวิต สอบถามก็ทราบว่า สองสามีภรรยาพักอยู่แถวมหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ก่อนก็รับจ้างทำงานทั่วไป ต่อมาอยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองและมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น จึงหันมายึดอาชีพพ่อค้ารถเร่ โดยการเร่ขายปลาพื้นบ้าน กุ้งฝอย ปูนา หรือเมนูพื้นบ้านต่างๆ ตามฤดูกาล ที่ออกหาจับกันเอง ตามห้วย หนอง คลองบึงต่างๆ ไม่ได้ลงทุนอะไร ลงแต่แรง คอยไปตระเวนหา รวมถึงผักสวนครัวปลอดสารพิษที่ปลูกเองบริเวณบ้านพัก ก็เก็บมาขายให้กับลูกค้า ได้บริโภคของดี ที่ปลอดสารพิษ หรือยากำจัดแมลงต่างๆ
โดยจะมีบริการตระเวนขายตามหมู่บ้านต่าง แบบเดลิเวอรี่ ส่งถึงรั้วบ้าน โดยใช้รถสามล้อแบบมีหลังคาพร้อมด้วยเครื่องขยายเสียงเล็กๆ เปิดเพลงคลอเบาๆ พร้อมกับต่อไมค์ไว้ส่งเสียงให้ลูกค้าทราบว่าวันนี้มีเมนูอะไรมาขายบ้าง โดยจะวิ่งตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตตัวเมืองพิษณุโลก
นายชุมพร นิ่มพัด หรือพี่ค้อน ได้บอกว่าตนและภรรยายึดอาชีพรถเร่ มาเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว โดยออกขาย ตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตเมืองพิษณุโลก เพราะว่าถือเป็นอาชีพที่สุจริต และโดยส่วนใหญ่คนในเมืองไม่ค่อยได้บริโภคอาหารเหล่านี้มากนัก เลยเกิดไอเดียทำรถเร่ขายเมนูพื้นบ้านให้กับคนเมือง และที่สำคัญตนและภรรยายึดคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่สอนให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง พออยู่ พอกิน ก็จะมีความสุข ประกอบกับตนเองเป็นคนสนุกสนาน ชอบร้องรำทำเพลง ทำให้เวลาลูกค้าที่มาช่วยอุดหนุนต่างอารมณ์ดีไปด้วย เลยทำให้มีลูกค้า ขาประจำหลายรายทีเดียว
สำหรับใครที่พบเห็นรถเร่ ของ 2 สามีภรรยา คันดังกล่าวก็อย่าลืมร้องเรียก ส่งสัญญาณอุดหนุนลุงค้อนกันได้ เป็นการสนับสนุนคนสู้ชีวิต เพื่อดำเนินชีวิตและดูแลครอบครัวต่อไป
