วันที่ 26 กรกฏาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.พิษณุโลก ขณะนี้เริ่มสร้างผลกระทบให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวในตำบลคุยม่วง และตำบลชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แล้ว บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำยมที่รับน้ำต่อมาจากอ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ได้ไหลล้นตลิ่งบริเวณม.6 ต. คุยม่วง และม.2 ต.ชุมแสงสงคราม และไหลท่วมนาข้าวอายุ 2 เดือนกว่า ได้รับความเสียหายแล้วจำนวน 800 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าวที่ปลูกในม.6 ต.คุยม่วง 500 ไร่ และนาข้าวที่ปลูกในเขตต.ชุมแสงสงคราม 300 ไร่ อีกทั้ง ยังมีแนวโน้มว่าจะไหลล้นตลิ่งเข้ามายังพื้นที่ปลูกข้าวชั้นในด้วย เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงต่อเนื่อง จากอิทธิพลของพายุเซินกา ที่ปกคลุมประเทศลาว และมีฝนตกชุกในภาคเหนือและจ.พิษณุโลก
นายวิรัตน์ พุทธโกษา ผู้ใหญ่บ้านม.2 บ้านชุมแสง ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนและลูกบ้านได้ช่วยกันสู้กับน้ำมาร่วม 10 วัน ได้ช่วยกันทำคันกั้นน้ำ นำกระสอบทรายไปกั้น รวมถึงขอกำลังพลทหารเพื่อมาช่วยกันกั้นริมตลิ่งแม่น้ำยมที่บริเวณม.6 ต.คุยม่วง อ.บางระกำ พื้นที่ที่ชาวบ้านหมู่ 2 บ้านชุมแสงไปทำนาร่วม 500 ไร่ แต่สุดท้าย ก็สู้กับธรรมชาติไม่ได้ ไม่สามารถกั้นริมตลิ่งได้ น้ำจากแม่น้ำยมได้ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวอายุ 2 เดือนเศษ ในม.6 ต.คุยม่วง เสียหายไป 500 ไร่ และขณะนี้เริ่มล้นตลิ่งบริเวณม.2 บ้านชุมแสง และท่วมนาข้าวในเขตม.2 ไปแล้ว 300 ไร่ รวมแล้ว นาข้าวของชาวบ้านชุมแสง ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม เสียหายจากถูกน้ำท่วมแล้ว 800 ไร่ และยังมีทีท่าว่าจะเพิ่มระดับล้นตลิ่งขึ้นมาอีก ขณะนี้พื้นที่ตอนใน ก็กำลังเร่งว่าจ้างรถเกี่ยวลงมาเกี่ยวข้าว แม้ว่าบางรายจะยังไม่ถึงอายุเก็บเกี่ยว แต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
นายวิรัตน์ เผยต่อว่า ปีนี้ภาครัฐเริ่มโครงการบางระกำโมเดล 60 ให้เกษตรกรในพื้นที่ต่ำลุ่มน้ำยมเริ่มปลูกข้าวพร้อมกันในวันที่ 1 เมษายน 2560 เพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ในเดือนสิงหาคม ก่อนที่น้ำจะไหลบ่าท่วมพื้นที่ แต่ปีนี้น้ำมาไวมาก ส่วนหนึ่งเป็นธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งอยากให้ภาครัฐได้ทราบปัญหา พื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยมที่ต.ชุมแสงสงครามนั้นเป็นที่ต่ำ ในการทำนารอบแรกนั้น ขอให้เกษตรกรได้สูบน้ำขึ้นมาทำนาในเดือนมีนาคม เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวได้ทันในเดือนมิถุนายน ก่อนที่น้ำจะเข้ามาท่วมเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ เมื่อเริ่มโครงการบางระกำโมเดล 60 เกษตรกรจะสูบน้ำจากแม่น้ำยมขึ้นมาทำนาก่อนก็ไม่ได้ จะมีจนท.มาไล่ปิดเครื่องสูบน้ำ ต้องเริ่มพร้อมกันในเดือนเมษายน
นางอนงค์ พรหมสุโข อายุ 36 ปี ชาวนาม.2 บ้านชุมแสง ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนทำนา 206 ไร่ โดยเป็นนาเช่าทั้งหมด ราคาเช่าไร่ละ 800 บาท มีส่วนหนึ่งที่ปลูกก่อน สามารถเก็บเกี่ยวได้ทันไปแล้วจำนวน 100 ไร่ ได้เงินมาก็นำไปใช้หนี้ค่าปุ๋ย ค่ายา แต่อีกส่วนหนึ่ง 106 ไร่ ที่ไปเช่าทำนาในม.6 ต.คุยม่วง อ.บางระกำ ขณะนี้ น้ำท่วมเสียหายหมดแล้ว เนื่องจากระยะเวลาที่ภาครัฐให้เริ่มทำนาให้เริ่มในวันที่ 1 เมษายน ทำให้นาแปลงที่เหลือทำได้ล่าช้า น้ำมาไวมาก แปลงที่ทำทีหลังจึงเก็บเกี่ยวไม่ทัน เสียหายไป 106 ไร่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูประชาชนว่าเดือดร้อนอย่างไร เพราะเวลาที่กำหนดให้ทำนามันไม่ทัน เราต้องทำนาเยอะเป็นร้อยไร่ สาเหตุที่ต้องทำมาก เพราะหนี้สินมีเยอะ อยากทำให้หลุดหนี้หลุดสิน งวดก่อนช่วงหน้าหน้าก็ประสบปัญหาเชื้อรา ทำนา 100 ไร่ ได้ข้าวแค่ 15 ตัน มารอบนี้ก็อยากทำมาก ๆ เพื่อจะใช้หนี้ น้ำมาไวมาก ทำให้หมดเนื้อหมดตัว
นายสัมฤทธิ์ ม่วงเพชร อายุ 60 ปี ชาวนาม. 2 ต.ชุมแสงสงคราม ที่ไปเช่านาในพื้นที่ม.6 ต.คุยม่วง อ.บางระกำ เปิดเผยว่า ตนไม่มีนาของตนเอง ต้องเช่าทำนาในราคาไร่ละ 800 บาท น้ำที่ขึ้นมาวันสองวันนี้ ท่วมนาข้าวที่กำลังออกรวงเสียหายทั้งหมด 43 ไร่ ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าไม่มีค่าเช่านาไปจ่ายเจ้าของนา รอบต่อไปก็จะไปเช่าทำนาไม่ได้
………………………………………………………………………………………………………………………………………….