วันที่ 12 ก.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีศาลพระภูมิขนาดใหญ่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ภายในวัดแสงดาว หมู่ 6 ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบกับนายสวัสดิ์ เสือคง อายุ 77 ปี ไวยาวัจกรวัดแสงดาว นำผู้สื่อข่าวไปชมความแปลกของศาลพระภูมิดังกล่าว ซึ่งก่อสร้างด้วยเสาปูนซีเมนต์แบบกลมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร สูงกว่า 5 เมตร เทียบเท่ากับความสูงของศาลาการเปรียญที่อยู่ใกล้กัน ส่วนตัวของศาลพระภูมินั้นกว้างประมาณ 2 เมตร ออกแบบมาจากทรงวิมานเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้า และประดับลวดลายเทวดาเทพพนมสีทองสวยงาม ภายในอัญเชิญรูปปั้นพระพรหม 4 หน้า หันออกไปทางทิศตะวันตกฝั่งแม่น้ำน่านตามความเชื่อโบราณ ซึ่งศาลพระภูมิแห่งนี้ต่างจากศาลพระภูมิเจ้าที่ตามบ้านเรือนทั่วไปที่มีขนาดเล็กและสูงเพียง 2 เมตรเท่านั้น ถ้าหากใครจะนำพวงมาลัยดอกไม้มาคล้องที่ศาลพระภูมิของวัดแสงดาว ก็จะต้องใช้บันไดต่อปีนขึ้นวางไว้ข้างบน เนื่องจากความสูงห่างจากพื้นที่ดินถึง 5 เมตรทีเดียว
นายสวัสดิ์ เสือคง ไวยาวัจกรวัดแสงดาว กล่าวว่า สาเหตุที่มาของศาลพระภูมิขนาดใหญ่ยักษ์แห่งนี้ เนื่องมาจากแนวคิดของหลวงพ่อสุเทพ โชติโย อดีตเจ้าอาวาสวัดแสงดาว ที่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2534 แต่สังขารไม่เน่าเปื่อยอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ได้เริ่มให้พระและชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันสร้างศาลาการเปรียญ สร้างกุฏิ และสร้างศาลพระภูมิเอาไว้เพื่อทำนุบำรุงศาสนา และสร้างตามความเชื่อของคนไทย โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536 โดยอดีตเจ้าอาวาสให้สร้างมีความสูงเท่าศาลาการเปรียญ จวบจนปัจจุบันมีชาวบ้านให้ความเคารพกราบไหว้บูชา ตามความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านต่างมาบนบานศาลกล่าวเรื่องต่างๆ ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว จะสำเร็จและสัมฤทธิ์ผลอยู่บ่อยครั้ง ก็จะมาแก้บนในเรื่องที่ขอไป เช่น นำผ้าแพรหลากสีมีผูกมัดไว้ที่เสาของศาลพระภูมิ หรือจัดหานางรำมารำถวายแก่ศาลพระภูมิเจ้าที่ เป็นต้น
