จับได้แล้วคนร้ายใช้ก้อนหินทุบตู้ชิงแหวนทองร้านเพชรทองโชกุน

วันที่ 10 ก.ค. 60 ที่สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.กิตติศักดิ์  บุญสม ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.ทรงพล  สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลลก ได้แถลงข่าวสื่อมวลชนผลการติบตามคนร้าย ก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบกระจกตู้ทอง ร้านเพชรทองโชกุน ถ.บรมไตรโลนารถ อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 กค. 60 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้ของกลางเป็นแหวนทองจำนวน 20 วง ก่อนใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อสกูบปี้ไอขี่หลบหนีไป  โดยเมื่อค่ำคืนวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ภาคภูมิ  ปราบศรีภูมิ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัวนายอนุชิต  หรือ ด๋ย ทองแสงเขียว อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 2 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านเพชรทองโชกุน เลขที่ 163 – 165 ใกล้กับวงเวียนหอนาฬิกา ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยจับกุมได้ที่บ้านใหม่ชัยเจริญ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางแหวนทองคำหนัก 2 สลึง 14 วง เสื้อคลุม เสื้อกล้าม หมวกกันน็อก และรถ จยย.ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอที่ใช้ในการก่อเหตุ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.กิตติศักดิ์  บุญสม ผบก.ภ.จว.พิษณุโลกเปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้นนายอนุชิต รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากติดหนี้พนันหลายอย่าง จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุโดยขี่รถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาหลายรอบ สบโอกาสจังหวะพอดีไม่มีใครอยู่เฝ้าหน้าร้าน จึงเดินเข้าไปใช้ก้อนหินทุบที่ตู้กระจกร้านทอง ได้แหวนทองคำไปจำนวน 20 วง และนำไปขายแล้วจำนวน 6 วง นำไปใช้หนี้ที่ซื้อยาบ้ามาเสพ

ในการแถลงข่าววันนี้ เจ้าของร้านคือนายภาสกร และนางดวงกมล ศักดิ์พงศ์ธร ได้เดินทางมาที่สภ.เมืองพิษณุโลกด้วย เพื่อตรวจสอบของกลาง ซึ่งเจ้าของร้านยืนยันจำแหวนทองได้ เพราะแหวนที่ร้านได้ทำตำหนิของร้านไว้ที่ด้านใน และ จำกางเกงที่คนร้ายสวมในวันก่อเหตุได้ นายภาสกร ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า เพราะก่อนหน้านี้ที่ร้านตนที่ตรงข้ามคือร้านทองโกชุน เคยโดนคนร้ายบุกเดี่ยวมาชิงทองไปแล้ว และยังจับกุมไม่ได้ ซึ่งครั้งนี้สามารถตามจับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ต่อไป คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ชุดสืบสวนได้แกะรอยตามจับกุมจากกล้องวงจริปดตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และพบว่า ผู้ต้องหา มีการเตรียมการวางแผนมาอย่างดีในการหลบหนี ได้ไปสักหนวดเพิ่มเติม และโกนศรีษะก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ และ ได้เตรียมการนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหลายชุด โดยระหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนพิชัยสงคราม ถนนมิตรภาพ ได้แวะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก และระหว่างทาง ได้แวะถอดเปลี่ยนเสื้อชั้นในตัวที่สองออก ได้นำกางเกงยีนมาสวมทับกางเกงตัวที่ก่อเหตุ ขณะที่ชุดจับกุมติดตามไปจับที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ที่บ้านใหม่ชัยมงคล ม.24 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ที่อยู่กลางสวนยางพารานั้น ได้ทำลายหลักฐานโดยการเผาเสื้อคลุมตัวนอกทิ้งไปแล้ว

โดยหลังจากแถลงข่าวเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณร้านเพชรทองโชกุน พร้อมดำเนินคดีในข้อหาก่อเหตุลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองทรัพย์และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป

/////////////////

แสดงความคิดเห็น