เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม 2560 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส. ) พร้อมด้วยนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พลตรีภาณุวัฒน์ เหนียวแน่น ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิษณุโลก พลตำรวจตรีชวลิต ชาญเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ส.ภาค 6 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ทำการไปรษณีย์ณัฐพงษ์และบริษัท เคอรี่เอ็กเพรส จำกัด ( ประเทศไทย ) จำกัด สาขาพิษณุโลก เพื่อเข้าดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องมีการบันทึกข้อมูลรายละเอียดชื่อสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขหนังสือเดินทางของผู้ส่งหรือผู้ฝากรวมถึงผู้รับหรือผู้รับแทนไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องมาจากวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 ทางสำนักงานป.ป.ส.ภาค 6 ได้ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้จับกุมนายมนตรี ปิยะพันธ์และแฟนสาวอายุ 17 ปี พร้อมกัญชาอัดแท่งบรรจุในกล่องไปรษณีย์จำนวน 71 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 202 เม็ดขณะทำการส่งกล่องพัสดุไปรษณีย์ดังกล่าวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ณัฐพงศ์และในวันที่ 4 มิถุนายน 2560 ทางสำนักงานป.ป.ส.ภาค 6 ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ขยายผลทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 88 หมู่ 1 ตำบลวังอิทก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก บ้านมารดาของนายมนตรี ผลการตรวจค้นตรวจยึดกัญชาอัดแท่งได้จำนวน 293 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์รวมตรวจยึดกัญชาอัดแท่งได้ทั้งสิ้นจำนวน 364 กิโลกรัมยาบ้า 202 เม็ด และจากการสอบสวนขยายผลพบว่านายณัฐพงศ์ ปราณันต์ธนภูมิ เป็นผู้ประกอบกิจการไปรษณีย์ณัฐพงศ์ เคยได้รับฝากพัสดุพันจากนายมนตรีจำนวน 44 รายการโดยไม่มีการจัดทำบันทึกรายละเอียดชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนของผู้ส่งไว้ และไม่มีการแจ้งข้อความเตือนให้ผู้ใช้บริการทราบว่ายาเสพติดเป็นสิ่งของผิดกฎหมายและต้องห้ามในการขนส่งโดยเด็ดขาดและยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนที่นายมนตรีจะถูกจับกลุ่มเคยส่งพัสดุพันผ่านบริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพรส( ประเทศไทย )จำกัด สาขาพิษณุโลกอีกด้วย
และจากการสอบสวนขยายผลไปที่บริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพรส ( ประเทศไทย ) จำกัดสาขาพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลกจังหวัดพิษณุโลก พบว่าไม่มีการจัดทำบันทึกข้อมูลรายละเอียดชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนของนายมนตรี และได้ตรวจสอบบัญชีรายการขนส่งสินค้าประจำเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 30 รายการพบว่ามีการบันทึก ชื่อผู้ฝากส่งว่าคุณน้องแพรว ซึ่งเป็นนามแฝงโดยไม่ได้บันทึกรายละเอียดเลขประจำตัวประชาชนของผู้ฝากส่งและผู้รับส่งสินค้าอย่างชัดเจนในเอกสารจึงเป็นการดำเนินกิจการที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวในขั้นต้น
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อมีหนังสือตักเตือน นายณัฐพงศ์ ปานันธนภูมิเจ้าของผู้ดำเนินกิจการไปรษณีย์ณัฐพงศ์ และบริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพรส ( ประเทศไทย ) จำกัด สาขาพิษณุโลกให้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว และหากพบว่าเจ้าของหรือผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบการรายใดที่มีพฤติกรรมในการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศข้างต้นในลักษณะที่เป็นการปล่อยปละละเลยให้ความร่วมมือถือสนับสนุนการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดโดยจะมีโทษปรับตั้งแต่10,000- 50,000 บาท จึงขอเน้นย้ำผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามประกาศอย่างชัดเจนอย่างเคร่งครัดโดยมีหลักสามอย่าง 3 ประเด็นคือต้อง ผู้มาส่งต้องแสดงบัตรประชาชนผู้รับต้องแสดงบัตรประชาชนพร้อมเขียนชื่อจริง และบริษัทเอกชนบริษัทไปรษณีย์บริษัทขนส่งจะต้องเก็บเอกสารบันทึกการส่งไว้จำนวน 180 วัน รวมถึงต้องติดป้ายในสถานประกอบการให้ชัดเจน ว่าสถานประกอบการไม่รับส่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด
…………………………………………………………………………..