เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 ก.ค. 60 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหพิราม จ.พิษณุโลก พลตำรวจโท ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พลตำรวจตรีชวลิต ชาญเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พลตำรวจตรีประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พลตำรวจตรีจิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พลตำรวจตรีภาณุ บุรณศิริ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามฐานความผิด พรบ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ 2556 มูลค่าความเสียหายกว่า 19.800.000 บาท เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 รายเป็นคนไทย 2 ราย คือ นางสาวเฌนิศา วงศ์ฟู และนางสาวกัลย์จารีย์ วัฒนวินิน และคนจีน 2 คนคือนายเฉิน เหม่ยจิง และนายพันเหยา และกำลังขยายผลการจับกุมไปยังตัวการใหญ่
พลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวว่า ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ถึงเดือนมีนาคม 2560 ตำรวจภูธรภาค 6 ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 ว่าถูกหลอกลวงโดยกลุ่มคนซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของตำรวจภูธรภาค 6 และอ้างชื่อบุคคลต่างๆให้โอนเงินในลักษณะ call center จึงได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนและหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งลักษณะ การกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหาคือจะใช้ระบบแปลงหมายเลขโทรศัพท์ให้เป็นหมายเลขของตำรวจภูธรภาค 6 โทรไปยังกลุ่มผู้เสียหายเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเป็นพนักงานไปรษณีย์ โดยกล่าวหาว่าผู้รับสายพัวพันกับยาเสพติดอยากจะแก้ไขปัญหาให้ หากผู้เสียหายดำเนินการทางการเงินโดยทำการอายัดเงินถอนเงินปิดบัญชีหรือโอนเงินให้ตามที่ผู้ต้องหาสั่งการ
ต่อมากองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้สืบสวนขยายผลในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 โดยพบว่ามีผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดพิจิตรได้ถูกคนร้ายกลุ่มนี้หลอกให้โอนเงินซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปให้นางสาวกัลย์จารีย์ วัฒนวินิน และ นางสาวเฌนิศา วงศ์ฟู ซึ่งทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชี พร้อมติดตามขยายผลนำไปสู่การจับกุมตัว นายเฉิน เหม่ยจิง และนายพันเหยา สัญชาติจีน ซึ่งทำหน้าที่กดโอนเงินผ่านตู้ ATM เมื่อพิจารณาจากแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาแต่ละคดีมีความคล้ายคลึงกันและก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชนเป็นจำนวนมากประกอบกับการกระทำมีลักษณะเป็นเครือข่ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำหลายส่วนมีทั้งผู้กระทำความผิดที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยและนอกราชอาณาจักร
พลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กล่าวว่าขณะนี้มีผู้เสียหายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 13 ราย มูลค่าความเสียหาย 19,800,000 บาท ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 6 จะติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าหัวหน้าขบวนการจะเป็นชาวจีน ขณะนี้กำลังสืบสวนและประสานกับกระทรวงต่างประเทศเพื่อติดตามมาดำเนินคดี จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่า อย่าไปหลงเชื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังมีโทรศัพท์ไปหลอกประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง และสำหรับประชาชน ที่อาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับกระบวนการ ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้แก๊งค์เหล่านี้ ขอให้ปิดบัญชี มาแสดงตนกับจนท.ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่ประชาชนโดยทั่วไปขอให้อย่าไปหลงเชื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีวิธีการดำเนินการแบบนี้ ถ้าพบเห็น ได้รับโทรศัพท์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจสอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………