เจ้าของร้านขายของชำสุดทน คนร้ายล้วงลิ้นชักลักเงิน กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

วันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านขายของชำ โดยกล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านขายของชำซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 459/1145 หมู่ 7 ริมถนนเส้นมิตรภาพ ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบ น.ส.เพ็ญพร  คงครุต อายุ 54 ปี เจ้าของร้าน กำลังยืนขายของอยู่หน้าร้านดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังติดกล้องวงจรปิดเพิ่มภายในร้านขายของชำ  โดยน.ส.เพ็ญพร ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ เมื่อเวลาประมาณ 17.55 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะกำลังขายของอยู่หน้าร้านกับหลานสาววัย 17 ปี มีชายหนุ่มอายุราว 30-35 ปี สวมเสื้อสีเทาขลิบฟ้า ทำทีเข้ามาขอซื้อของ แต่ระหว่างนั้นตนรู้สึกปวดท้อง จึงรีบไปเข้าห้องน้ำโดยปล่อยให้หลานสาวอยู่ดูแลเพียงลำพัง พร้อมกับนำเงินทอนใส่ไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะให้ แต่ระหว่างที่หลานสาวขายของอยู่นั้น ชายคนดังกล่าวได้อาศัยจังหวะระหว่างที่หลานสาวหันหลังไปหยิบน้ำปลาและปลากระป๋อง เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะขโมยเงินทอนออกไปจำนวน 2,000 บาท แล้วทำทีเหมือนว่าไม่เกิดอะไรขึ้น เมื่อตนเองออกมาจากห้องน้ำหลานสาวบอกว่าได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก คาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะหยิบฉวยขโมยเงินไป ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี กระทั่งมาเปิดดูกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในร้านจำนวน 4 ตัว ก็พบว่าเงินที่ใส่ไว้ในลิ้นชักถูกขโมยไปจริง จึงรีบเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก

นอกจากนี้หลังเกิดเหตุแค่เพียง 1 วัน คนร้ายรายเดิมก็ย้อนกลับมาที่ร้านของตนอีกครั้ง ซึ่งตนจดจำยี่ห้อและทะเบียนรถคนร้ายได้ คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน 1097 พิษณุโลก  จึงร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วยกันจับตัว แต่คนร้ายไหวตัวทัน รีบซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพอทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมได้ไม่ยาก

ขณะที่วันนี้ตนเองยอมลงทุนควักเงิน จำนวน 15,000 บาท จ้างให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิดในร้านเพิ่มจำนวน 4 ตัว รวมทั้งร้าน 8 ตัว เพื่อบันทึกภาพทุกมุมภายในร้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักขโมย ป้ายยา ขึ้นหวยปลอม จ่ายเงินปลอม ฯลฯ  เงินที่ลงทุนซื้อของมาขายแทบไม่เหลือกำไร เพราะถูกคนร้ายก่อเหตุลักษณะดังกล่าวถี่ยิบ จึงอยากฝากเตือนภัยถึงร้านค้าอื่นๆ ให้ระแวดระวังมิจฉาชีพที่ออกตระเวรหากินระยะนี้ และอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย.

/////////

แสดงความคิดเห็น