เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านท่าช้าง หมู่ 2 ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาดข้าวแปลงใหญ่ โดยเปิดโอกาสให้เกษตรกรแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการ สำหรับใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการตลาดสินค้าเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีนายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก นายทรงยศ ไชยมงคล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนเกษตรกร เข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ แสนศิริ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินการส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ภายใต้นโยบายของพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ปัจจุบัน มีพื้นที่แปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรอง จำนวน 12 แปลง 6 ชนิดสินค้า ประกอบด้วย 1.แปลงใหญ่มะม่วง 2.แปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3.แปลงใหญ่ไก่ดำ 4.แปลงใหญ่กระบือ จำนวน 3 แปลง 5.แปลงใหญ่ข้าว จำนวน 4 แปลง 6.แปลงใหญ่พืชผัก จำนวน 2 แปลง โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมและสร้างความเข้าใจให้กับเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยการผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่มการผลิตในรูปแบบสหกรณ์การเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการองค์กร วิธีลดต้นทุนการผลิต เทคนิคการผลิตและการบริหารจัดการตลาดที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิตข้าวอย่างครบวงจรและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ด้าน นายทรงยศ ไชยมงคล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เพื่อสร้างเครือข่ายการเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดข้าวแปลงใหญ่แบบครบวงจร ส่งเสริมการรวมกลุ่มสมาชิกในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อสร้างพื้นฐานของการรวมกลุ่มให้เข้มแข็ง โดยบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน เพื่อกำหนดแผนการพัฒนารูปแบบการผลิตข้าวแปลงใหญ่ รวม 5 ด้าน คือ 1. ด้านการลดต้นทุนการผลิต ตั้งเป้าจากไร่ละ 4,545 บาท/ไร่ เป็น 3,897 บาท/ไร่ 2. ด้านการเพิ่มผลผลิต จากไร่ละ 790 กิโลกรัม/ไร่ เป็น 834 กิโลกรัม/ไร่ 3. ด้านการเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยการพัฒนาคุณภาพข้าวให้ผ่านมาตรฐาน GAP เพื่อคัดสรรเป็นเมล็ดพันธุ์จำหน่ายให้แก่เกษตรกรทั่วไปและการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ 4. ด้านการบริหารจัดการองค์กร โดยเน้นวิธีรวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง 5. ด้านการตลาด มีการเชื่อมโยงเครือข่ายตลาดข้าวผ่านระบบสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตข้าวแปลงใหญ่ของเกษตรกร อีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ได้เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2559 โดยดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการซื้อ-ขายผลผลิตข้าวนาแปลงใหญ่จากเกษตรกร สำหรับในปีนี้ สหกรณ์ได้เปิดตลาดรับซื้อรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2560 เป็นต้นมาโดยรับซื้อในราคานำตลาด ตันละ 200 บาท จำแนกเป็น 1.การรวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขนมจีนจำนวน 69 ราย ปริมาณ 498.59 ตัน จำนวน 3,259,930 บาท 2. การรวบรวมเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์ (พันธุ์พิษณุโลก 2) จำนวน 29 ราย ปริมาณ 421.44 ตัน จำนวน 3,397,290 บาท เพื่อสนับสนุนช่องทางตลาดข้าวแปลงใหญ่ของเกษตรกรให้เข้าสู่กระบวนการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อช่วยให้เกษตรกรขายผลผลิตข้าวได้ในราคาดีและมีรายได้เพิ่มขึ้น