สายตรวจเมืองพิษณุโลกดับ 1 สาหัส 1 หนุ่มกำแพงเพชรเมาขับกระบะหนีเสียหลักพุ่งชน

 เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. 2560 ร.ต.อ.นิพนธ์  สุทธหลวง รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนเส้นพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ (ขาล่อง) บริเวณกลางสี่แยกอินโดจีน หมู่ 8 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงพล  สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แบบตอนเดียวเสริมคอกท้ายรถ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน บท 6414 น่าน มีร่องรอยเฉี่ยวชนที่หน้ารถฝั่งขวา และข้างรถฝั่งซ้ายเสียหายพังยับเยิน มีนายธนา  พงศ์ภัคธนากร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 6 ต.นาไร่หลวง อ.สองแคว จ.น่าน เจ้าของรถ ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 300 สีน้ำตาล ทะเบียนตราโล่ 25795 สภาพล้มคว่ำพังยับเป็นเศษเหล็ก ชิ้นส่วนอุปกรณ์รถแตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.ศราวุธ  จันโส อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.อุตรดิตถ์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก สภาพศพสวมชุดสีกากีแบบเต็มยศมีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์ที่ศีรษะมันสมองไหล กระดูกตามร่างกายหักหลายแห่ง นอนตะแคงข้างจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ ส.ต.ต.กันตพัฒน์  ศัลยพงษ์ อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดเดียวกัน มีบาดแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย ไหปลาร้าหัก สมองได้รับการกระทบกระเทือน เลือดไหลออกทางจมูกอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรุงเทพ-พิษณุโลกไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร อีกฝั่งถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แบบ 4 ประตู สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพแต่งซิ่งเสียหลักตกลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างทางพร้อมกับควบคุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายอิทธิภูมิ  ภูพัด อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176/4 หมู่ 2 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร สภาพร้องไห้ฟูมฟายหน้าตาแดงก่ำมีกลิ่นสุราเหม็นคลุ้ง ตำรวจตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ก่อนนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสอบปากคำที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ช่วงเวลา 00.05 น. ของวันที่ 6 มิ.ย. ก่อนหน้าเกิดเหตุ ส.ต.ต.ศราวุธ  จันโส ผู้เสียชีวิต พร้อมกับ ส.ต.ต.กันตพัฒน์  ศัลยพงษ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจร่วมกันตามปกติ และรับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่าให้สกัดจับรถกระบะต้องสงสัย กระทั่งพบรถคันดังกล่าวขับอยู่บนถนนเส้นมิตรภาพมุ่งหน้าสี่แยกอินโดจีน จึงไล่ติดตามเป็นระยะทางกว่า 8 กม. โดยมี ส.ต.ต.ศราวุธ เป็นคนขี่ ส่วน ส.ต.ต.กันตพัฒน์ นั่งซ้อนท้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบพร้อมส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่คนขับรถกระบะ คือ นายอิทธิภูมิ  ภูพัด ก็ไม่ยอมจอดแต่โดยดีแถมยังเหยียบคันเร่งหลบหนี จนมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟแดง นายอิทธิภูมิได้เร่งเครื่องฝ่าสัญญาณไฟแดงก่อนชนกับรถกระบะอีกคันของนายนายธนา  พงศ์ภัคธนากร ชาว จ.น่าน ที่เพิ่งขับออกจากสัญญาณไฟเขียวกลางสี่แยกพอดี ส่งผลให้รถกระบะหมุนฟาดกับรถจักรยานยนต์ของตำรวจทั้งสองนายจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนรถกระบะของผู้ก่อเหตุเสียหลักเสยกับเกาะกลางถนนพุ่งตกลงไปในป่าหญ้าข้างทาง

ด้าน นายอิทธิภูมิ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนเองขับรถเดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อมาเยี่ยมแม่ของแฟนเก่าที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และดื่มเบียร์ไปจำนวน 3 ขวด จนขับถึง จ.พิษณุโลก ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม เนื่องจากตนตกใจกลัวจะถูกจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เพราะมึนเมาขณะขับขี่ แถมรถกระบะที่เพิ่งซื้อมาใหม่ได้เพียง 3 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีป้ายทะเบียนแต่อย่างใดจึงกลัวถูกจับปรับดำเนินคดี เลยตัดสินใจขับรถหลบหนีตำรวจแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น พร้อมกับกล่าวขอโทษสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปจนตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถในขณะเมาสุราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่หลังเกิดเหตุมีเพื่อนตำรวจและผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตทราบข่าว ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุจำนวนมาก ต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสีย ส.ต.ต.ศราวุธ  จันโส ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งเข้ารับราชการตำรวจเพียง 2 ปีเท่านั้น หลังเรียนจบโรงเรียนนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่น 5 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 นครสวรรค์ ซึ่งยังมีอนาคตในหน้าที่การงานอีกยาวไกล และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานอีกด้วย โดยก่อนหน้าเสียชีวิตก็สามารถปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าจำนวน 500 เม็ด หลังจากนี้ทางผู้บังคับบัญชาจะแจ้งไปยังตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่างๆ พร้อมจะติดต่อไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต ให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.

…………………………………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น