รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมรับฟังสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนพื้นที่ชายแดน จุดที่ 5 ของจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพะเยา จังหวัดน่านและจังหวัดอุตรดิตถ์ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2560 ที่โรงแรมอมรินทร์ลากูน อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เดินทางมาร่วมรับฟังสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนพื้นที่ชายแดน จุดที่ 5 ของจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพะเยา จังหวัดน่านและจังหวัดอุตรดิตถ์ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่บริเวณชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และราชอาณาจักรกัมพูชา
พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนพื้นที่ชายแดน ในการร่วมกันแก้ไขตามลำดับ แต่เราต้องมีการตรวจสอบว่าปัญหาเหล่านั้นจะได้รับการแก้ไขอย่างไร เราจึงต้องมีการสำรวจความต้องการว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งปัญหาในพื้นที่ชายแดนมีหาบประการ ทั้งสภาพพื้นที่การเดินทางที่ยากลำบาก ปัญหาเรื่องการใช้ภาษาไทย ทั้งสภาพเศรษฐกิจและสังคม เราจะต้องมีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เราต้องดูที่จุดแข็งและโอกาสของแต่ล่ะพื้นที่ ในวันนี้เราได้จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลา ของจังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในภาพรวมทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการไปทีละส่วนในพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และราชอาณาจักรกัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ 27 จังหวัด 105 อำเภอ เพื่อเร่งรัดเป็นเรื่องเร่งด่วนให้เกิดเป็นรูปธรรมในปี 60 แต่แผนการดำเนินการนั้นเราทำไว้ในช่วง พ.ศ. 2560 – 2564
โดยจุดแข็งและโอกาสของทั้ง 4 จังหวัดที่นำเสนอ เน้นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนในพื้นที่ชายแดนโดยเล็งเห็นความสำคัญว่า การศึกษาคือชีวิต การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศและเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นส่วนช่วยในการเพิ่มความเท่าเทียมในสังคม โดยผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดหวัด ผู้แทนจาก สพฐ. ประธานอาชีวศึกษา ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษานอกระบบและการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาอกชน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และภาคีเครือข่ายในการจัดการศึกษา ในจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพะเยา จังหวัดน่านและจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 200 คน.
//////////