เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 60 ที่ผ่านมาในสังคมออนไลน์ โซลเซียลมีเดีย จ.พิษณุโลก ได้ให้ความสนใจกับเหตุการณ์ และประณามการกระทำ เหตุการณ์ วัยรุ่นชายคนหนึ่งอายุ 16 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมหลานสาววัย 3 ขวบ บริเวณถนนมิตรภาพ อ.เมืองพิษณุโลก แต่ปรากฏว่า มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้เท้าถีบรถของผู้เสียหายล้มลง หนูน้อยวัย 3 ขวบ ที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บแก้มหน้าอก และแขนถลอก จนน่าสงสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ถีบรถหนุ่มวัย 16 ปีและหลานสาววัย 3 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บนั้นจากนั้นญาติผู้เสียหายนำเหตุการณ์ไปโพสต์ในโลกโซเซียล ในกลุ่มพิษณุโลกบ้านเรา และมีการนำไปโพสต์ต่อในหลายเพจ อาทิ เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์พร้อมคำบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ ทำให้ชาวพิษณุโลก ต่างรุมประณามการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจำนวนมาก ที่ทำร้ายร่างกายแม้กระทั่งมีเด็กวัย 3 ขวบซ้อนรถมาด้วย จนได้รับบาดเจ็บ
โดยผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสัมภาษณ์หนุ่มวัย 16 ปีผู้เสียหาย พบว่าชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อยู่ในอ.เมืองพิษณุโลก ที่ยังได้รับบาดเจ็บแขนถลอก ขณะที่หลานสาวหนูน้อยวัย 3 ขวบนั้น แผลที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลถลอก จากการล้มกับพื้นถนนจนที่บริเวณแก้ม หน้าผาก หน้าอก แขน เป็นแผลฟกซ้ำและถลอกกัน เห็นแล้วน่าสงสารเป็นอย่างมาก
นายเอ นามสมมติ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนไปรับหลานสาวจากบ้านพี่ชายที่อยู่บริเวณสี่แยกประโดก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเวลานั้นประมาณเที่ยงคืน 20 พ.ค.60 โดยตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณก่อนสี่แยกอินโดจีน ได้มีวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเป็นกลุ่ม แล้วประกบรถตนเองพร้อมกับถีบรถจนล้ม บริเวณ ถ.มิตรภาพ เลยสี่แยกอินโดนจีนมาเล็กน้อย ทางเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ซึ่งขณะนั้นหลานสาวก็ซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นก็มารุมทำร้ายตน พร้อมกับพูดว่า “กระจอก ไอ้เด็กไม่มีพวก” ซึ่งตนก็ไม่รู้จักหรือมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาก่อน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุก็หลบหนีไป ซึ่งตนเองก็ได้รีบเข้าไปดูหลานสาวที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วรีบพากลับบ้านพี่ชายและพาไปโรงพยาบาลทันที หลังจากนั้นก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ติดตามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดี ทางตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ค่ำวันนี้จะเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้ตนเองได้สั่งให้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนข้อเท็จจริงเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่หลายคนสนใจ พร้อมกับหาพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดตามถนนสายต่างๆ เพื่อหาข้อมูลและหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีเป็นการด่วน
//////////////