หลายหน่วยงานเข้าช่วยอดีตกำนันต.วงฆ้อง ไฟไหม้บ้านทรัพย์สินหมดสิ้น

จากกรณี เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา เกิดเพลิงไหม้บ้านไม้ชั้นเดียว ตั้งอยู่เลขที่ 298 หมู่ 3 ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนายทองย้อย โนนจาด อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นอดีตกำนันตำบลวงฆ้อง ซึ่งก่อนเกิดเหตุนางจรูญ  โนนจาด อายุ 67 ปี ภรรยา ได้ทอดปลาทิ้งไว้ในครัวแล้วอาจลืมปิดเตาแก๊ส หลังจากนั้นได้ไปร่วมงานศพในละแวกบ้าน จนทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้บ้านจนวอดเสียหายทั้งหลัง ตามที่ได้เสนอข่าวให้ทราบไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ค. พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมคณะกรรมการสถานีปันน้ำใจ พล.ท.วิเชียร  ไชยปกรณ์ ประธานชมรักคนรักในหลวง จ.พิษณุโลก นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมทีม one home หน่วยงาน พม.จ.พิษณุโลก เดินทางไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายทองย้อย และ นางจรูญ โนนจาด สองสามีภรรยา เนื่องจากบ้านประสบเหตุอัคคีภัย พบตัวบ้านเหลือเพียงแค่ซากเถ้าถ่านไหม้เกรียม สิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า และทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ ก็ถูกเผาผลาญไปจนหมด เรียกได้ว่าแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ในวันนี้จึงมีบรรดาชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวของนายทองย้อย และ นางจรูญ พร้อมช่วยกันเก็บเศษซากสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายออกมาจากตัวบ้าน และรื้อเศษซากไม้เก่าออกเนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจจะถล่มลงมาเป็นอันตรายได้ ก่อนแจ้งเรื่องไปยังนายพรชัย  ศิริเพิ่มพูนชัย นายก อบต.วงฆ้อง เพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้น ในเรื่องของการสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือบ้านพักถาวร

ขณะที่ นายทองย้อย อดีตกำนันตำบลวงฆ้อง ก็ประสบอุบัติเหตุถูกไฟลวกที่ข้อเท้าและฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง จนเป็นแผลพุพองต้องพันผ้าปิดแผลเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ กำลังนั่งอยู่ในรถเข็ญอย่างน่าเวทนาสงสารเป็นอย่างมาก ส่วนนางจรูญ ภรรยา ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งตัวเองยังป่วยเป็นโรคไตต้องเดินทางไปฟอกไตถึง 3 วันต่อสัปดาห์ ก็ยังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเงินที่ครอบครัวเก็บหอมรอมริบไว้จากการทำนาขายข้าว จำนวนกว่า 80,000 บาท ที่จะต้องนำไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. บางส่วน จำนวน 160,000 บาท ได้ถูกไฟไหม้ไปจนสิ้น ทางคณะผู้ใจบุญจึงช่วยกันปลอบประโลมให้หายคลายเศร้าและกล่าวให้กำลังใจสู้ชีวิตต่อไป ก่อนจะมอบถุงยังชีพพร้อมเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งแก่ผู้ประสบเหตุอีกด้วย

…………………………………………………………………………………………………………………………

แสดงความคิดเห็น