กลุ่มทอสายใย ต ทอฝัน สายบุญข้างถนน เล่นดนตรีเปิดหมวกไปพัฒนาโรงเรียนในชนบท

กว่าจะมาเป็น กลุ่มทอสายใย ต ทอฝัน (สายบุญข้างถนน) ที่ร่วมกลุ่มเล่นดนตรี    ตามฟุตบาทข้างถนน ตลาดนัด จนถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ในจังหวัดพิษณุโลก        ที่ทุกคน ต่างมีจุดหมายเดียวกัน คือขอทำดี เพื่อสังคม  และตลอด 20 ปี จากการเริ่มต้นคิด ของ ชัย ตนบ้านนอก ต้องเจออะไรบ้าง …หาคำตอบได้จาก สกู๊ปข่าวนี้ 

เขียนจาก ชีวิตจริง…ของ ชัย ตนบ้านนอก หรือนายศุภชัย ประสาร อายุ 42 ปี เจ้าของร้านดนตรีโฟล์คซอง  สไตน์เพลงเพื่อชีวิต  ชื่อร้านตนบ้านนอก  ตั้งอยู่ที่ 16/2  ถนนเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก  ซึ่งผู้เขียนเอง   ได้เห็นถึงความตั้งใจจริง   ในการทำดีเพื่อสังคม  จึงขอนำเรื่องราวทั้งหมด   นำมาเขียนเพื่อให้กำลังใจ   สำหรับสมาชิกกลุ่มทอสายใย และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ  ให้กับบุคคลอื่น ในการทำความดี  ต่อสังคม 

… เสียงดนตรีข้างถนน  จากกลุ่มทอสายใย ที่คนพิษณุโลก คงคุ้นเคยกับเสียงเพลงที่เหล่าศิลปินชาย – หญิง  ขับกล่อมออกมาไปตามจังหวะ และท่วงทำนองของเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ  ซึ่งพบเห็นได้เป็นบางครั้ง แถวข้างถนนตามริมฟุตบาท  ตลาดนัด หรือตามห้างสรรพสินค้า  ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก  พวกเขากลุ่มนี้   ผลัดกันมายืนร้องเพลง ด้วยหัวใจ   ที่มีความสุข  (ซึ่งผู้เขียนเองเชื่ออย่างนั้น)  รอคอย คนที่เดินผ่านไปผ่านมา    หยุดยืนดู  (ว่าพวกเขามาทำอะไรกัน)  และก็หยิบยื่นเงินในกระเป๋า  หยอดลงในกล่องกีตาร์เปล่า  ที่ว่างอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ( เมื่อเกิดความประทับใจ)

นายศุภชัย ประสาร หรือชัย ตนบ้านนอก กล่าวถึงจุดเริ่มต้น ของการตั้งกลุ่ม ทอสายใย ต ทอฝัน (ต่อพลัง เติมแรงใจ) ว่า ต้องขอย้อนกลับไป เมื่อประมาณปี 2538 หรือ 22 ปีที่แล้ว ตนเองเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด  ได้ย้ายมาอยู่จังหวัดพิษณุโลก กับพี่ชาย รับจ้างเดินสายโทรศัพท์      อยู่ในขณะนั้น  ต่อมาไม่นานก็ได้แต่งงานมีคู่ชีวิต ตั้งหลักปักฐาน ทำมาหากินอยู่จังหวัดพิษณุโลก  และจากความสามารถในการเล่นดนตรี   ก็ไปเล่นดนตรีกลางคืนตามร้านต่างๆ    ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก อยู่หลายร้าน   และประมาณปี 2540     ก็ได้คิดริเริ่ม รวมกลุ่มกับนักดนตรีคนอื่นๆ  ในตอนนั้น  ก็มี นายสมบูรณ์ เวียนศรี  หรือ พี่น้อย ตนบ้านนอก              นายเดชสมพร จันทมิตร หรือ แจ็ค เถียงนาน้อย ซึ่งทั้งสองคนนี้  มาจาก จังหวัดร้อยเอ็ดเหมือนกัน  และมาทำมาหากินอยู่ในจังหวัดพิษณุโลกเช่นเดียวกัน    ที่ขาดไม่ได้ ต้องขอกล่าวถึงคือ  นายไพรวิษณุ หมอนทอง  หรือพี่ซึ่ง  มือเพอร์คัสชั่น ของวง ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคประจำตัว  ซึ่งทั้ง 4 คน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มทอสายใย

ชัย คนบ้านนอก กล่าวต่อว่า พอปี 2543  ก็ได้เปิดร้านเป็นของตนเอง ชื่อร้าน คนบ้านนอก      ซึ่งกิจการก็มีช่วงดีบ้างอยู่หลายปี  ให้นักดนตรี พอมีรายได้ เด็กเสริฟในร้านได้มีงานทำกัน    และก็ได้มีโอกาสทำอัลบั้มเป็นของตนเอง  ร่วมกับนายสมบูรณ์ เวียนศรี  หรือพี่น้อย ตนบ้านนอก เมื่อปี 2549 “ชื่ออัลบั้มว่า ตนบ้านนอก” มีบทเพลงที่แต่งขึ้น ชื่อเพลงว่า “ท่องสองแคว” และอีกบทเพลงที่แต่งขึ้นโดย  นายเดชสมพร จันทมิตร หรือ แจ็ค เถียงนาน้อย เมื่อปี 2559  ชื่อเพลงว่า “พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงงานหนัก ที่สุดในโลก”    

ชัย คนบ้านนอก ถอนหายใจ ยาว….  แล้วกล่าวต่ออีกว่า  มีขาขึ้น  ก็ต้องมีช่วงขาลงเป็นธรรมดา   ถึงขั้นต้องขายบ้าน ขายรถ แต่ก็สู้ชีวิตอดทน  และก็ผ่านช่วงแย่ๆ ตรงนั้นมาได้            พูดถึงโครงการต่างๆ   ที่ได้ออกไปเล่นดนตรีเปิดหมวก  ก็จะมีทางโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัด    จะทำเรื่องขอสนับสนุนมา   ตนเองก็จะปรึกษากันในกลุ่ม   ว่าพอจะช่วยได้ไหม   ถ้าตกลงว่าพอจะทำได้   ก็จะออกเปิดหมวก เก็บเล็ก ผสมน้อย จากเงินที่ผู้ใจบุญ ได้ร่วมมอบเงินสนับสนุนมา หรือคนที่มายื่นฟังเพลง ตามสถานที่ต่างๆ   แล้วนำเงินใส่ในกล่องรับบริจาค  ก็จะนำเงินทั้งหมดเหล่านั้น   ไปจัดสร้าง สิ่งที่เป็นประโยชน์  อาทิ สร้างอ่างล้างหน้าแปรงฟัน สร้างห้องน้ำห้องสุขา สนามกีฬา และห้องสมุด

“พวกเรามักจะพูดกันบ่อยๆ  ในกลุ่มว่า  เราเป็นแค่นักดนตรี ตัวเล็ก ๆ  แต่ก็อยากที่จะทำประโยชน์   ให้กับสังคมบ้าง  และตอบแทนแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และองค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช  ของจังหวัดพิษณุโลก  ที่พวกเราได้มาอาศัย เป็นที่หลับนอน หากินอยู่ทุกวันนี้   และจะขอเดินตามรอยเท้าของพ่อหลวง  รัชกาลที่ 9  ทำความดี ตอบแทนแผ่นดิน  และจะทำต่อไป  จนกว่าจะไม่มีแรงทำกัน”

ชินวัฒน์ สุขศรี รายงาน.

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แสดงความคิดเห็น