เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นายยุทธนา แฝดสุริยะ ทนายความ พร้อมด้วยนายอุตสาห์ สวัสดิ์ศรี อายุ 48 ปี และ นายสัญญา สีขวา อายุ 42 ปี ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 4 ต.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ และบรรดาชาวบ้านบ้านแท่นจำนวนกว่า 50 คน พากันเดินทางมาเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมกรณีตกเป็นผู้ต้องหาในคดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมและฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายชาว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เข้าแจ้งความว่ามีคนร้ายนำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 มี.ค. มาขึ้นรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัว และรางวัลเลขหน้า 3 ตัว แต่ปรากฏว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอม จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัว แต่ขณะเกิดเหตุนายอุตสาห์ สวัสดิ์ศรี ผู้ต้องหา ยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ จ.พิษณุโลก แต่อยู่ภายในงานศพของหมู่บ้านบ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ส่วนนายสัญญา สีขวา ผู้ต้องหาอีกราย ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยานายอุตสาห์ กำลังทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งทั้งคู่ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด แต่กลับถูกออกหมายจับดำเนินคดี และติดคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกถึง 3 วัน ก่อนจะมีญาตินำหลักทรัพย์จำนวน 6 แสนบาท ยืนขอประกันตัวออกมาสู้คดีความ ในวันนี้พวกตนจึงพาพยานซึ่งเป็นชาวบ้านจำนวน 40 คน ที่อยู่ในงานศพมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ด้าน พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง สว. (สอบสวน) สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายและรับขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนอุดรดำริ ต.นครไทย อ.นครไทย เดินทางเข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยให้การว่าช่วงเวลา 15.00-17.00 น. วันที่ 6 มี.ค. 60 ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับรถปิคอัพยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ มาจอดหน้าร้านแล้วนำสลากกินแบ่งรัฐบาลของงวดวันที่ 1 มี.ค. มาขึ้นรางวัลสลับกันกับร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาทที่อยู่ละแวกใกล้เคียงอีก 2 ร้าน รวมทั้งสิ้น 29 ฉบับ คิดเป็นเงินจำนวน 65,680 บาท แต่เมื่อเจ้าของร้านนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปตรวจสอบอีกครั้งที่ตัวเมืองพิษณุโลก โดยวิธีการนำแช่ในน้ำอุ่นกลับพบว่าเป็นการนำตัวเลขมาแปะเพื่อให้ตรงกับรางวัลอย่างแนบเนียน จึงพากันเข้าแจ้งความเอาผิดกับคนร้ายซึ่งสามารถจนจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดในตลาดสดนครไทยจับภาพเอาไว้ได้อีกด้วย ทาง สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก จึงประสานไปยัง สภ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และควบคุมตัวนายอุตสาห์มาดำเนินคดีที่ สภ.นครไทย ส่วนนายสัญญาได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 4 เม.ย. พร้อมกับให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และต่างยืนยันว่าวันเวลาเกิดเหตุพวกตนทั้งคู่ไม่ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.นครไทย และไม่เคยเดินทางมา จ.พิษณุโลก มาก่อน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพยานบุคคลชัดเจน ผู้เสียหายสามารถชี้ตัวผู้ต้องหาได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ทางทนายความและฝ่ายผู้ต้องหาได้นำพยานบุคคลซึ่งเป็นชาวบ้านใน ต.บ้านแท่น ที่อยู่ในงานศพยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้มาก่อเหตุพื้นที่ อ.นครไทย แต่อย่างใด มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 30 ปากเพิ่มเติมในวันนี้
พนักงานสอบสวน เผยต่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานของฝั่งผู้ต้องหาไปแล้วถึง 15 ปาก ก่อนจะสรุปเตรียมสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาในวันที่ 4 พ.ค. นี้ ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมและฉ้อโกงทรัพย์ รวม 5 คดี ต่างกรรมต่างวาระกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 25 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่าคดีดังกล่าวได้ทำอย่างตรงไปตรงมา ตามขั้นตอนของกฎหมาย และพิสูจน์ตามหลักฐานข้อเท็จ ในวันนี้ เมื่อผู้ต้องหา และ ทนายความ พาพยานมาให้ตนสอบปากคำเพิ่มเติม ตนก็จะดำเนินการสอบสวนให้เพิ่มเติม เพื่อเตรียมส่งอัยการพิจารณาต่อไป
…………………………………………………………………………………………………………….