วันที่ 24 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสภาพอากาศร้อนระอุ ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่งแต่กลับส่งผลดีให้กับเกษตรกรที่ยึดอาชีพกวนมะม่วงแปรรูปเป็นส้มลิ่ม หรือ ส้มแผ่น ที่ตากแดดแห้งไวขึ้น โดยเฉพาะที่บ้านวังครุฑ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมะม่วงกวนแปรรูปรายใหญ่ ซึ่งในช่วงนี้ชาวบ้านหลาย 10 หลังคาเรือนจะเร่งมือปลอกมะม่วง ฝานมะม่วง เพื่อแปรรูปเป็นส้มลิ้ม หรือมะม่วงกวนส่งขายในช่วงฤดูกาล
นายณรงค์ เอี่ยมชัง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337 หมู่ 12 บ้านวังครุฑ ต.วังทอง อ.วังทอง เจ้าของธุรกิจแปรรูปมะม่วง เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ซึ่งเป็นฤดูกาลของมะม่วง ตนได้รับซื้อมะม่วงสุกจากสวนเกษตรกรในพื้นที่ อ.เนินมะปราง ถึงแม้ว่ามะม่วงปีนี้จะออกน้อย เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แต่ก็ต้องหาวัตถุดิบมาแปรรูปเพิ่ม โดยรับซื้อทุกสายพันธุ์แบบคละรวม อาทิ พันธุ์เขียวเสวย น้ำดอกไม้ กำปั้น เพชรบ้านลาด และโชคอนันต์ ในราคากิโลกรัมละ 3.50 บาท ซึ่งขึ้นจากปีที่กิโลกรัมละ 50 สตางค์ จากนั้นก็ได้จ้างชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง มาช่วยกันปลอกเปลือก และฝานมะม่วง โดยจ้างเข่งละ 20 บาท
จากนั้นก็จะนำไปกวนด้วยเตาฟืนเครื่องจักร (มอเตอร์หมุน) ขนาดใหญ่ พร้อมใส่ส่วนผสมคือน้ำตาลทราย และเกลือ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เนื่องจากมะม่วงมีความหวานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จึงใส่น้ำตาลทรายไม่มาก โดยกวนด้วยกันจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ใช้เวลากวนประมาณ 2 ชั่วโมง นำใส่กะละมังขนาดใหญ่ ทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนที่จะไล้เป็นแผ่น และนำไปตากแดดประมาณ 3 แดด และแพ็คส่งขายในราคากิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งยอดออเดอร์ตอนนี้เรียกว่ามีเท่าไหร่ส่งขายหมด เฉลี่ยต่อวันต้องใช้มะม่วงถึง 500 กิโลกรัม นับได้ว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตมะม่วง
นายณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า การนำมะม่วงมาแปรรูปเป็นส้มแผ่น จึงถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต ซึ่งแต่ก่อนจะนำส้มแผ่นไปขายเองที่ตลาด แต่ปัจจุบันจะมีโรงงานแม่ตะเพียน ที่จังหวัดพิจิตรรับซื้อ ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยทางโรงงานจะนำไปผ่านกรรมวิธีอบอีกครั้ง และแพ็คกิ้งใหม่ ส่งไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ แต่ปีนี้ผลผลิตมะม่วงออกน้อยทำให้ต้องหาซื้อและรอมะม่วงที่ทางสวนจะนำมาส่งทำให้การผลิตได้น้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่สภาพอากาศในช่วงนี้ร้อนระอุ แต่ก็ส่งผลดีให้กับการตากมะม่วงแผ่น แห้งได้เร็วขึ้น
///////////////