24 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายว่าที่ตลาดร่มเขียว ริมทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณหน้าค่ายสฤษดิ์เสนา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดร่มเขียวได้นำเอารังผึ้งมิ้ม ผึ้งป่ามาวางขายจำนวนมาก บางรายบีบเอาหัวน้ำหวานใส่ขวดเป็นน้ำผึ้งแท้จากป่า ขายในราคาขวดละ350บาท สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีไข่มดแดงขายในราคากองละ 50 -100 บาท ซึ่งมีประชาชนนิยมซื้อไปปรุงเป็นอาหาร แกง ทอด ยำ หรือก้อย ตามความชอบ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย ยิ่งได้ขึ้นร้านอาหารแล้วราคาจะตกจานละ 100 -200 บาท เลยทีเดียว
จากการสอบถามชาวบ้านที่หาของป่ามาขายบอกว่า ช่วงที่ขายดีที่สุดคือช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รังผึ้งในป่ามีมากและมีรังขนาดใหญ่ โดยที่ชาวบ้านจะมีวิธีการเอารังผึ้งป่าแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมบางเอากาบมะพร้าวแห้งมาเผา เอาควันรมไล่แม่ผึ้งออกจากรังไป โดยที่ไม่มีใครใช้สารเคมีฉีดเพื่อไล่ผึ้งเพราะจะทำให้รังผึ้งปนเปื้อนสารเคมีเป็นอันตรายกันลูกค้าที่ซื้อไปรับประทานและจะทำให้ตัวผึ้งตายโดยส่วนตัวที่ยังมีชีวิตก็จะย้ายถิ่นฐานและไม่กลับมาทำรังที่เดิมอีก ส่วนชาวบ้านที่เพิ่งเริ่มออกหารังผึ้งป่าแรกๆก็มักจะโดนผึ้งต่อยหนักบ้างเบาบ้างก็แล้วแต่สถานการณ์ กว่าจะได้รังผึ้งป่ามาหนึ่งรัง ก็เจ็บตัวไปตามๆกัน ส่วนคนที่ออกหามานานแล้วก็มักจะโดนจนชิน และทนทานต่อพิษเหล็กในของผึ้งแล้วก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บมากเท่าไร ส่วนราคาที่ชาวบ้านขายก็มีตั้งแต่ รังละ50 บาท จนถึง 200 บาท แล้วแต่ขนาดรัง ซึ่งชาวบ้านจะตั้งราคาจากขนาดของน้ำผึ้งเป็นหลัก หากรังที่มีหัวน้ำหวานใหญ่มากก็จะแพง และรังที่มีตัวอ่อนมากก็จะขายได้ราคาดีเช่นกัน ซึ่งช่วงที่ขายดีก็จะมีรายได้ถึงเดือนละเกือบ 1หมื่นบาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ในช่วงหน้าแล้งเพื่อรอฤดูทำนา