ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชน 6 จว.ภาคเหนือตอนล่าง

วันที่ 22 มีนาคม 2560 พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานเปิด สัมมนาโครงการ ผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชน ครั้งที่ 32 ที่ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ (ชั้น 5) โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน  นิสิต นักศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง  ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์  สุโขทัย พิจิตร  อุตรดิตถ์ และกำแพงเพชร กว่า 500 คน   พลเอกวิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นองค์กรที่มีภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่เดือดร้อนมาพิจารณาแล้วเสนอทางแก้ไขไปยังหน่วยงานรัฐ โดยเน้นแนวทางสมานฉันท์และสันติวิธี มุ่งสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตรวจสอบการละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขององค์กรตามรัฐธรรมนูญและองค์กรในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเปรียบเสมือนตัวกลางเชื่อมประสานความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ การให้ความรู้ความเข้าใจถึงบทบาทอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ตรวจการแผ่นดินแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐตามภูมิภาคและท้องถิ่น

พลเอก วิทวัส กล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่จัดสัมมนาผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจรพบประชาชนในครั้งนี้ เน้นเรื่อง “บทบาทหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน” และวิธีการใช้แอพพลิเคชั่นของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ นักวิชาการ ผู้ดูแลศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนประจำจังหวัดพิษณุโลก เครือข่าย และภาคประชาสังคม จาก 6 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง  กิจกรรมสำหรับนิสิตนักศึกษาจาก 2 มหาวิทยาลัยในจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามและมหาวิทยาลัยนเรศวร  โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาเหล่านี้ได้รับรู้เข้าใจถึงบทบาท อำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตลอดจนเรียนรู้เทคนิคการเขียนเรื่องร้องเรียนอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะสามารถให้คำแนะนำแก่ญาติพี่น้องหรือประชาชนที่ต้องการยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไปได้สามารถส่งเรื่องร้องเรียนได้ทางไปรษณีย์ถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1676 (โทรฟรีทั่วประเทศ) และทางอินเทอร์เน็ตwww.ombudsman.go.th ซึ่งการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้นอย่างไรก็ตาม นอกจากการสัมมนาแล้ว บริเวณลานหน้าห้องสัมมนา ผู้ตรวจการแผ่นดินยังได้ร่วมกับ 7 องค์กร ได้แก่ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิษณุโลก และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก เปิดบูธให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทอำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กร ให้บริการปรึกษาข้อกฎหมาย และรับเรื่องร้องเรียนปัญหาความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินยังได้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะภาพวาดที่ได้รับรางวัลจากโครงการประกวดวาดภาพ “น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” เพื่อน้อมรำลึกและถวายความอาลัย ตลอดจนเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

//////

แสดงความคิดเห็น