เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 60 ที่ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ 4 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการที่ดิน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กรมป่าไม้ นัดชาวบ้านจำนวน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 4 และ 10 จำนวนกว่า 300 คนเพื่อมารับฟังคำชี้แจงทำความเข้าใจ หลังประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่มใหม่ ให้ 2 หมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้าน หลายคนต้องถือเอกสารสิทธิ์มาโชว์ ขณะที่จนท.กรมป่าไม้ยืนยัน ไม่ยึดพื้นที่คืน เพราะไม่ใช่นายทุน เพียงแต่จะเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ถือครองจากโฉนด เป็น”สิทธิทำกิน”( สทก ) ในเขตป่าสงวนฯของกรมป่าไม้แทน
นายบุญเรือง โสคำภา กำนันตำบลบ่อโพธิ์ และ นายสมคิด ตาสี ผู้ใหญ่บ้านแก่งทุ่ง หมู่ 4 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทยพร้อมลูกบ้านใน 2 ตำบลหมู่ 4 และหมู่ 10 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ค้านไม่เห็นด้วยกับนโยบายกรมป่าไม้ จะต้องเอาพื้นที่ทำกินดั่งเดิมไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยทำกินจำนวน 101 ราย ครอบครองพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ ล่าสุดมีชาวบ้านจำนวน 11 รายไปร้องขอนำ สค. 1 ไปเปลี่ยนเป็นโฉนด กลับถูกยับยั้ง ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนได้รับครุฑเขียว หรือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์(นส.3 ก)ไปเรียบร้อยแล้วต่างผวา เพราะได้นำไปจำนองไว้กับธนาคารพาณิชย์ (ธกส.)
นางลำเพ็ญ ทองคำ บ้านเลขที่ 19 หมู่ 10 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย พิษณุโลก กล่าวว่า ชาวบ้านใน 2 ตำบลเดือดร้อนแน่ ถ้าพื้นที่ทำกินไร่นา ไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เพราะทำไร่ทำนามาหลายชั่วอายุคน
นางหนูตุน ถานันตา บ้านเลขที่ 49 หมู่ 10 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย กล่าวว่า ไม่ยอมแน่ ถ้ากรมป่าไม้จะเอาที่ดินทำกินตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายไป เพราะเราไม่ได้บุกรุกแผ้วถางบนภูเขาเหมือนชาวม้ง หากินประกอบอาชีพสุจริต รัฐจะเอาที่ดินไปทำไม ทุกบ้านมีเสาไฟฟ้า จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าถึงแล้ว
นางฟั่น บุญศรีมาก อายุ 42 บ้านเลขที่ 100 หมู่ 10 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย กล่าวว่า ไม่ยอมแน่ๆ แม้ว่า ตนไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ แต่อีกหลายคนมีเอกสารสิทธิ์ก็ไม่ยอม
น.ส.รัตนาวิน โพธิ์บุญมา อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 10 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย กล่าวว่า ตนมีที่ดินทำกินจากมรดกตกทอดประมาณ 20 ไร่เป็นเอกสารสิทธิ์ผืนใหญ่รวม 3-4 พี่น้องเป็น สค.1 ไม่ต้องการได้เอกสารสิทธิ์ (สทก.)จากกรมป่าไม้ อยู่มานานปี วันนี้ต้องการโฉนดเท่านั้น
นายบุญเรือง โสคำภา กำนันตำบลบ่อโพธิ์ กล่าวว่า ตนและผู้ใหญ่บ้าน ก็ไม่มีที่ดินทำกินบริเวณพื้นที่ที่มีปัญหากว่า 1400 ไร่ แต่ลูกบ้านเดือดร้อน ถ้ากรมป่าไม้จะเอาพื้นที่ทำกินดั้งเดิมไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ บ้านแก่งทุ่งแห่งนี้ คือ หมู่บ้านดั่งเดิม ทำกินมาหลายชั่วอายุคน จนมีเสาไฟฟ้าเขาถึงแล้ว มีเอกสารสิทธิ์ สค.1,โฉนดแล้ว มีเพียงบางรายเท่านั้นที่กำลังขอเอกสารสิทธิ์เพิ่ม แต่วันนี้กรมป่าไม้ต้องการพื้นที่ในหมู่บ้านให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งๆได้บริเวณชายเขาก็ยกประโยชน์ทำเป็นป่าชุมชนไปแล้ว
เดิมหมู่บ้านแถบนี้เรียกว่า”หมู่บ้านตายห่า”จึงอพยพไปตั้งหมู่บ้านตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าว ไม่ได้ขยายหมู่บ้าน และไม่ได้บุกรุกแผ้วถางเอาที่ดินเพิ่มตามชายเขา ปัจจุบันมี 7 ครอบครัวอาศัยอยู่และทำกินอยู่ ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนเดินทางมาทำกินบนที่ดินรวมเนื้อที่ 1,400 ไร่ บางรายมีโฉนดชัดเจน อาทิเช่น นายหวั่น บุญสีมาศ ครอบครองโฉนดอยู่ 33 ไร่ เป็น นส.3 ออกเมื่อ 2513
นายสมคิด ตาสี ผู้ใหญ่บ้านแก่งทุ่ง หมู่ 4 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย กล่าวว่า ทำไมต้องเอาที่ดินชาวบ้านไปอยู่ในความดูแลของป่าไม้ ถามว่าถูกต้องรึไม่ เพราะชาวบ้านทุกคน เขาไม่ยินยอม จากเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย ให้เปลี่ยนเป็น หนังสือรับรองจากกรมป่าไม้ (สทก.)
ชาวม้งที่บุกรุกทำกินอยู่บนภูเขา ทางราชการยังให้สิทธิอยู่ได้ ปล่อยให้ทำกิน คิดจะอพยพชาวม้งลงมา เขายังไม่ยอมลง ต่อรองกับรัฐ 20 ไร่กับ 25 ไร่บ้าง แต่ถามว่า คนไทย ชาวนครไทยที่ทำกินดังดั่งหลายชั่วอายุคน ทำไม ต้องมาขีดเส้นให้ไปอยู่ในเขตป่าสงวน ทั้งๆ ชาวบ้านทำกินมาหลายชั่วอายุคน หลายคนออกเอกสารสิทธิ์ทั้ง นส.3 มี สค.1 ไปแล้ว