เอไอเอส เดินสายลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ประกาศวิสัยทัศน์ 2017 “Digital For Thais” หนุนประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 มุ่งนำดิจิทัลสร้างประโยชน์เพื่อคนไทย
16 มีนาคม 2560 : นายพรรัตน์ เจนจรัสสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ เอไอเอส เดินสายลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2017 พร้อมทุ่มเทพลังทั้งองค์กร นำศักยภาพจากโลกดิจิทัล ทั้งเครือข่าย Mobile และ Fix Broadband ซึ่งทันสมัยที่สุด พร้อมขีดความสามารถจากบุคลากรมืออาชีพ ที่ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้เข้มแข็ง สนับสนุนการพัฒนารากฐานหลักภาครัฐ เพื่อก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ
โดยวิสัยทัศน์ เอไอเอส 2017 ตอกย้ำการเป็น Digital Life Service Provider ที่มุ่งเน้น 3 ด้าน
1) ยกระดับเครือข่ายไปอีกขั้น สู่ Next G Network (Next Generation)
– พัฒนาเครือข่ายทั้ง Mobile, Super Wifi และ Fix Broadband จากเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ก้าวสู่ “เครือข่าย Digital ที่รองรับการใช้งานระดับกิกะบิท” (Gigabit Network) พร้อมรองรับการก้าวสู่ 5G เป็นรายแรก
– เครือข่ายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พัฒนาสู่ Narrowband IoT มาตรฐานระดับโลก ที่จะรองรับการใช้งานอุปกรณ์ IoT ต่างๆซึ่งทยอยเข้ามาในประเทศไทยอย่างมากมาย
2) จัดเต็ม Digital Service สุด Exclusive จากความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก
– สุดยอด Digital Content ที่จัดมาเพื่อลูกค้าเอไอเอสแบบ Exclusive อาทิ FOX, HBO, NBA และล่าสุด NETFLIX พร้อม Chromecast มอบสาวกคอบันเทิงชาวไทย
– จับมือไมโครซอฟท์ นำ Business Cloud เต็มรูปแบบยกระดับธุรกิจไทยด้วยมาตรฐานระดับโลก
3) ประกาศแนวคิด AIS Digital For Thais นำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสนับสนุนความแข็งแกร่ง สร้างโอกาสใหม่ๆ แก่กลุ่มรากฐานหลักของประเทศ ประกอบด้วย เกษตรกรรมและผู้ประกอบการ OTOP, สาธารณสุข , การศึกษา และ Digital Start Up
โดยแผนงานในปี 2017 ที่เอไอเอส วางวิสัยทัศน์ไว้คือ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับรากฐานหลักของประเทศ สนับสนุน เสริมความแข็งแรง สร้างโอกาสทางการเข้าถึง และความเท่าเทียมกันของประชาชนที่มีอาชีพอยู่ในรากฐานหลักของประเทศภายใต้แนวคิด Digital For Thais เพื่อร่วมกับภาครัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยใน 4 ด้านหลักๆ คือ
1) ด้านเกษตรกรรม และผู้ประกอบการ OTOP : เอไอเอส ร่วมกับทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ภายใต้ความร่วมมือกันในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์กับกลุ่มเป้าหมายวิสาหกิจชุมชน,OTOPและ SMEs โดยได้รับการสนับสนุนในด้านฐานข้อมูลผู้ประกอบการOTOP ที่เชื่อมโยงผ่านระบบ Channel Management System ที่พัฒนาขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมต่อกับ E-Marketplace ของเอไอเอส นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพของเกษตรกรและผู้ประกอบการ OTOP ผ่านแอปพลิเคชัน “ฟาร์มสุข” เพื่อเพิ่มรายได้ด้วยการสร้างช่องทางในการซื้อ-ขายสินค้า และลดรายจ่าย ด้วยข้อมูลจากคลังความรู้ทางด้านภูมิปัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำการเกษตรจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าของสินค้า ด้วยข้อมูลการเพาะปลูกจากอุปกรณ์ IoT, ความรู้ด้านบรรจุภัณฑ์ และการสร้างความแตกต่างให้สินค้า พร้อมทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบาย และมั่นใจในสินค้าที่ได้รับอีกด้วย
2) ด้านสาธารณสุข : เอไอเอสต้องการยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณสุข และสุขภาพของคนไทย โดยเน้นความทั่วถึง ความมีคุณภาพ และประสิทธิภาพของการให้บริการสาธารณสุข โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันโรค มากกว่าเมื่อป่วยแล้วจึงมารักษา จึงจัดทำแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์เป็น แอปฯที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขชุมชนเชิงรุกของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงแพทย์ และการดูแลสุขภาพได้อย่างสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น โดยแอปฯ อสม.ออนไลน์ เปิดใช้งานตั้งแต่ปลายปี 2558 มีรพ.สต.ในพื้นที่ภาคเหนือนำไปใช้งาน จำนวน 23 แห่ง และในปีนี้มีเป้าหมายในการขยายไปยังอีกกว่า 100 แห่ง ทั่วภาคเหนือ
3) ด้านการศึกษา : นอกจากการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลแล้วเอไอเอสยังให้ความสำคัญกับการจัดทำโครงการเพื่อสังคมด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ในโครงการ“สานรัก คนเก่งหัวใจแกร่ง” ซึ่งเป็นโครงการที่เอไอเอสจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ด้วยการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนขาดโอกาสที่มีความประพฤติดี โดยการมอบทุนการศึกษาจนจบในระดับปริญญาตรี รวมถึงมอบอุปกรณ์การกีฬาให้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย “Thailand 4.0” เอไอเอสจึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการศึกษา โดยจัดทำโครงการสานรัก สานความรู้ ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงแหล่งข้อมูล สาระ ความรู้ให้แก่เยาวชนไทยทุกคน ด้วยการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และ AIS PLAYBOX รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับ content ที่เกี่ยวกับการศึกษา, สาระความรู้และสารคดี อาทิ DLTV, National Geographic, Edutainment VOD รวมถึง Documentary VOD ของชีวิตสัตว์ป่าและธรรมชาติที่หลากหลาย ฯลฯ ให้กับโรงเรียนของน้องๆคนเก่งหัวใจแกร่ง และโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ จำนวนกว่า 200 โรงเรียนเพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ในการเรียนรู้แก่เยาวชนไทย ให้ได้ประโยชน์จากองค์ความรู้ ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งบนโลก รวมถึงความร่วมมือกับบริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ในการนำเนื้อหาความรู้ที่เป็นประโยชน์กับคุณครูเข้ามาพัฒนาองค์ความรู้ในการสอนหนังสือให้กับนักเรียนด้วย โดยในส่วนของภาคเหนือ มีเป้าหมายในการดำเนินโครงการฯดังกล่าว จำนวน 63 แห่ง เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ในการเรียนรู้แก่เยาวชนไทย
4) สถานที่สำหรับ Start Up และผู้ประกอบการยุคดิจิทัล : AIS D.C. Designed For Creation เอไอเอสเล็งเห็นความสำคัญของการต่อยอดองค์ความรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ จึงเปิดสถานที่ที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มครีเอเตอร์ให้มีพื้นที่สร้างสรรค์และแบ่งปันแรงบันดาลใจ ร่วมกับ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) เพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้และเพิ่มขีดความสามารถของคนไทย ให้นำความสามารถนั้นไปต่อยอดในการพัฒนาประเทศ โดยภายใน AIS D.C. ประกอบด้วย บริการมากมายที่ตอบโจทย์กลุ่มครีเอเตอร์รุ่นใหม่ รวมถึง AIS Playground ที่แรกในประเทศไทยที่ให้ StartUp ได้ทดสอบระบบเชื่อมต่อ API บน Product & Service ของตนเอง กับ AIS Digital Platform ที่รองรับการทำ Digital Business ที่หลากหลาย พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากเอไอเอสที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
“นี่คือความมุ่งมั่นในการนำขีดความสามารถทั้งแรงกาย แรงใจ และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของชาวเอไอเอสทุกคน ไปร่วมสนับสนุนภาครัฐเพื่อยกระดับ Digital Infrastructure ของประเทศ ให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะเข้าไปเชื่อมโยงและพัฒนาประเทศอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม พร้อมก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายต่อไป”