นายรังสรรค์ บุศย์เมือง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ตามที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้อนุมัติหลักการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยให้ศูนย์ปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จัดตั้งหน่วยปฎิบัติการฝนหลวง เพื่อปฎิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง บรรเทาหมอกควัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่ป่าไม้ และเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ในเขตภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป
สำหรับการจัดตั้งหน่วยปฎิบัติการฝนหลวง ของศูนย์ปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ประกอบด้วย หน่วยปฏิบัติฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ จัดตั้ง ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปฎิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา ตาก และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพลตอนบน เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา และแหล่งเก็บน้ำต่างๆ โดยมีเครื่องบินประจำการ จำนวน 3 เครื่อง
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก จัดตั้ง ณ ท่าอากาศยาน กองบิน 46 อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เพื่อปฎิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และแหล่งเก็บน้ำต่างๆ โดยมีเครื่องบินประจำการจำนวน 3 เครื่อง
ฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดตาก จัดตั้ง ณ ท่าอากาศยานตาก อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติการฝนหลวง ของหน่วยปฎิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่และพิษณุโลก
ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมการปฎิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือทั้ง 3 แห่ง ได้ที่ ฝ่ายวิชาการ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์หมายเลข 053 – 275051 ต่อ 12